เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคของ social network และยุคที่เทคโนโลยีสามารถระบุตำแหน่งของเราได้ไม่ยาก จากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ทำให้เมื่อการรู้ตำแหน่งของคุณ ณ.ขณะนั้นมาผนวกเข้ากับเว็บไซต์ ทำให้การให้บริการของเว็บไซต์ ซึ่งจากเดิมจะเป็นบริการที่ให้แบบโดยรวมๆ ทั่วๆ ไป เปลี่ยนมาสามารถนำเสนอ ข้อมูลสินค้าและข้อมูลได้แม่นยำมากขึ้น โดยใช้ตำแหน่งพื้นที่ของคนที่เข้ามา เป็นตัวเลือกข้อมูลมานำเสนอให้เหมาะสมกับคนๆ นั้นได้
ล่าสุด TARAD.com ได้พัฒนาระบบ "ค้นหาสินค้าอัจฉริยะ (Product Search Engine)" ที่ http://search.tarad.com ทึ่สามารถค้นหาสินค้าที่คุณต้องการได้ จากแหล่งข้อมูลสินค้านับล้านๆ รายการ โดยล่าสุดระบบค้นหาสินค้านี้ได้มีการ นำระบบการระบุตำแหน่งของคุณเข้าไปเชื่อมโยงกับผลลัพย์ของการค้นหาสินค้า ทำให้ผลลัพย์สินค้าที่ได้มีความแม่นยำ และเป็นสินค้าที่อยู่ใกล้กับผู้ที่ค้นหา ณ. ขณะนั้นได้ทันที
รู้ตำแหน่ง (Location) ผู้ใช้แล้วดียังไง?
วิธีการทำงานง่ายๆ ของระบบนี้คือ เช่น ผมอยู่แถว ตลิ่งชั่น ผมค้นหาโทรศัพท์ "iphone" เมื่อผมค้นหา ระบบของ http://search.tarad.com ก็จะทำการค้นหา iphone ที่อยู่ใกล้ๆ ตำแหน่งผมมานำเสนอได้ทันที ทำให้ผมสามารถเลือกซื้อ iphone ได้กับ ร้านค้าที่ขายอยู่ใกล้ๆ ซึ่งจะทำให้ผมสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และง่ายมากขึ้น ในด้านการเดินทาง และรู้ตำแหน่งของผู้ขายอีกด้วย นี้คือข้อดีของการใช้ตำแหน่ง (Location) มาช่วยทำให้การขายสินค้า (E-Commerce) เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น
![]() |
ทำอย่างไร เรารู้ข้อมูล?
เนื่องจากสินค้าที่มาค้าขายส่วนใหญ่ ผู้ขายบางคนจะมีการระบุตำแหน่งของร้านค้าของตัวเองเอาไว้ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถมาหา และรู้จักร้านค้าได้ง่าย เมื่อเราเอาตำแหน่งของผู้ขายสินค้า มาผนวก (Mashup) กับเทคโนโลยีของ Google Map และ ตำแหน่งของผู้ใช้เว็บไซต์ ณ.ขณะนั้น ก็จะทำให้การทำงานของ "การค้าขายตอบสนองตำแหน่งผู้ซื้อ" Location Base E-Commerce เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
มองเห็นสินค้าออนไลน์ ในโลกเสมือนจริง ด้วย Augmented Reality E-Commerce
หากคุณเคยอ่าน การ์ตูน Dragon Ball คุณอาจจะเคยเห็น ดราก้อนเรดาห์ ที่เอาไว้ค้นหาลูกดราก้อนบอล โดยจะเป็นเรดาห์ ที่สามารถค้นหาและบอกตำแหน่งของๆได้ ซึ่งตอนนี้เทคโนโลยีนี้ เกิดขึ้นจริงๆ แล้วโดยทางทีมงาน TARAD.com ได้นำเทคโนโลยี Augmented Reality (อ่านว่า อ๊อกเมนเต็ด เรียลลิตี้ หรือ AR) มันคือการผสมผสานระหว่างโลกจริงๆ กับโลกเสมือน โดยเมื่อเทคโนโลยีนี้ มาผนวกกับ การค้าออนไลน์ หรือ E-Commerce ทำให้เกิดรูปแบบของการค้ารูปแบบใหม่ ที่ผมเรียกว่า "การค้าขายผสานโลกเสมือนจริง (Augmented Reality E-Commerce)" ที่จะทำให้ผู้ซื้อ สามารถค้นหาสินค้าที่ตัวเองต้องการ โดยสามารถรู้ตำแหน่งของสินค้าว่าอยู่ที่ไหน? ทิศทางไหน และอยู่ไกลเท่าไร จากตำแหน่งที่เค้าอยู่ โดยเพียงแค่มองผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ลงโปรแกรม ลายาร์ (Layar)
![]() |
(Layar คือโปรแกรมบราวเซอร์รูปแบบใหม่ ที่มีผสมผสานเทคโนโลยี Augmented Reality เข้าไปอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เราสามารถมองเห็น การผสมผสานของโลกแห่งความจริงๆ กับโลกออนไลน์เสมือนจริงเข้าด้วยกันอย่างน่าตกใจ สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ในโทรศัพท์ระบบ Andriod หรือ iphone ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.Layar.com )
วิธีการเข้าสู่โลกการค้าแบบใหม่
เพียงคุณลงโปรแกรม Layar ในโทรศัพท์มือถือ Andriod (Download ฟรีได้จาก Android Market) หรือ iphone (Download ฟรีได้จาก AppStore) คุณเลือกที่แถบเมนู "Local" หรือ จะค้นหา (Search) โดยใช้คำว่า TARAD เพียงเท่านี้ ระบบ "Product AR Search by TARAD.com" ก็จะแสดงออกมาให้คุณเห็น
![]() หน้าจอตอนเปิดโปรแกรม layar ขึ้นมา |
![]() หน้าจอตอนเลือกโมดูล การใช้งานของ TARAD.com ในส่วนของ Local |
![]() หน้าจอเลือก Module การใช้งานในส่วนของการค้นหา |
เมื่อกดเข้าสู่ระบบ "Product AR Search by TARAD.com" คุณก็จะหน้าจอ "Filter Settings" ที่หน้านี้คุณสามารถ เลือกได้ว่า "คุณจะค้นหาสินค้าอะไร?" เลือกขอบเขตของการค้นหา จากตำแหน่งของคุณตอนนี้ว่าจะค้นหาไกลออกไปกี่กิโลเมตร โดยค้นหาได้ไกลสูงสุด 10 กิโลเมตร และนอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกหมวดหมู่ของสินค้าที่คุณต้องการเลือกได้อีกด้วย ว่าคุณจะค้นหาในหมวดไหน เพื่อผลลัพย์ที่ออกมาได้แม่นยำมากขึ้น และก็กด Apply
![]() หน้าจอตอนที่คูณเลือกว่าจะค้นหาสินค้าอะไร? อาณาเขตกว้างไกลเท่าไร? และ หมวดหมู่สินค้าอะไร? |
หลังจากนั้น ระบบก็จะทำการ "ค้นหาสินค้าที่คุณได้ทำการเลือกเอาไว้ ในขอบเขตๆ รอบๆตัวตัวของคุณ" ว่ามีสินค้าอะไรบ้าง ที่อยู่รอบตัวคุณตอนนี้ อย่างเช่นผมค้นหา "ipod" จากผลลัพย์ จะเห็นว่า ด้านมุมขวาด้านบนของหน้าจอในโทรศัพท์จะมีเรดาห์ขึ้นมา และจุดๆ ที่เราเห็นคือตำแหน่งของ ipod ที่อยู่ในทิศทางนั้น ซึ่งเมื่อเราหมุดโทรศัพท์ไปในทิศทางที่จุดนั้นอยู่ ภาพก็จะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่เราเลื่อนกล้องของโทรศัพท์ไป
![]() หน้าแสดงข้อมูลสินค้าที่ค้นหาออกมา จุดสีขาวๆ กลางจอคือตำแหน่งของสินค้า และมุมขวาบน คือเรดาห์ของตำแหน่งของสินค้าที่ค้นหาเจอ |
และเมื่อกดที่ปุ่มสีขาว หรือข้อมุลด้านล่าง ระบบก็จะแสดงข้อมูลของสินค้าชิ้นนั้นออกมา พร้อมตำแหน่งของสินค้าชิ้นนั้น และยังสามารถเลือกได้ว่ากดเพื่อไปดู
![]() เมื่อกดดูข้อมุลสินค้า จะมีรายละเอียดที่เราสามารถดูเพิ่มเติมได้ |
- ข้อมูลของเว็บไซต์ร้านค้าร้านค้า (Link to Shop) จะเปิดไปที่หน้าเว็บของร้านค้าๆน้ัน
- ข้อมูลของเว็บไซต์หน้าสินค้าชิ้นนั้นที่คุณค้น (Link to Product) จะเปิดไปที่หน้าของสินค้าชิ้นน้ันๆ
- พาฉันไปที่ตำแหน่งสินค้านี้หน่อย (Take me there) ระบบจะพาคำนวนเส้นทางของคุณในปัจจุบัน และคำนวนหาวิธีการเดินไปหาสินค้าชิ้นนั้นๆ ให้
![]() การให้ระบบพาฉันไปที่ตำแหน่งสินค้านี้หน่อย (Take me there) |
![]() ข้อมูลของเว็บไซต์หน้าสินค้าชิ้นนั้นที่คุณค้น (Link to Product) |
มีหลายวิธีการดูตำแหน่งสินค้า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
- ดูผ่านกล้องของโทรศัพท์ (Augment Reality)
วิธีนี้จะดูผ่านกล้องขอโทรศัพท์ ซึ่งคุณอยากรู้ว่าตำแหน่งสินค้าอยู่ที่ไหน คุณก็แค่เอากล้องในโทรศัพท์กวาดไปในทิศทางที่สินค้าอยู่
![]() |
2. ดูแบบแผนที่ (Map) คุณสามารถรู้ตำแหน่งของสินค้าที่ อยู่รอบๆ ตัวคุณจากแผนที่ ![]() |
3. ดูเป็นรายการ (list) เป็นการแสดงรายการสินค้าเป็น รายการๆ ลงมา ![]() |
ทั้งหมดนี้เป็นการผสมผสานของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ากับเทคโนโลยีทางการค้าในโลกออนไลน์ หรือ E-Commerce เข้ามาบรรจบกัน ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเทคโนโลยี Augmented หรือ Location เป็นเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาได้แล้วไม่ยาก ซึ่งทีมงานของ TARAD.com ได้พัฒนาออกมาให้เห็นกันแล้ว นี้คือ บริการแรก Location + Augmented Reality E-Commerce อันแรกของเมืองไทยเลยในตอนนี้ สำหรับผมนี้คือแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ผมเชื่อว่าคนไทยหลายๆ น่าจะเห็นตัวอย่างจริงๆ กันแล้ว แล้วทีก็ต้องตาคุณแล้วละครับ ว่าคุณจะนำเทคโนโลยี Location หรือ Augemented มาใช้กับธุรกิจหรืองานของคุณยังไงได้บ้าง?
ปล.
– ขอบคุณคุณ @thangman22 @ifew ที่เป็นส่วนหนึ่งในการพลักดันให้เทคโนโลยีเกิดขึ้นได้จริงๆ
– ขอบคุณณัฐวัชร์ ผู้บริหาร HTC ประเทศไทย ที่สนับสนุน การพัฒนา Android ของไทย
– ขอบคุณงานจิบกาแฟคนทำเว็บ (Webpresso) ตอน "Location-based service ต่อยอดความคิดสู่เว็บยุคใหม่" ที่ทำให้ผมและทีมงานเราได้ไอเดียดีๆ จากงานนี้