ช่วยนี้เห็นหลายๆ คนและหลายธุรกิจต่างๆ กระโดดเข้ามาทำการตลาดบน Facebook กันมากมาย หลายๆ คนตั้งเป้าว่าต้องพยายามสร้างคนเข้ามาร่วมเป็น "แฟน (Fan)" ให้มากที่สุด ใน "หน้า (Page)" ของตนบน Facebook แต่ผมก็เริ่มสงสัยว่า บางคนจะรู้ไหมหนอว่าหากแฟนคุณเยอะๆ แล้ว คุณจะสามารถนำ "แฟน" ที่คุณมีอยู่ใหนเฟซบุ๊คของคุณมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือเพ่ิมยอดขายให้กับธุรกิจคุณได้อย่างไร เดียววันนี้ผมมีเทคนิคมาเปิดเผยกันครับ 

  • พูดคุยกับลูกค้าบ่อยๆ ผ่านเฟซบุ๊ค
    การพูดคุยกับลูกค้าบ่อยๆ จะช่วยทำให้หน้าเฟซบุ๊คของคุณไม่หยุดนิ่ง แต่ต้องหลีกเลี่ยงการพูดอยู่คนเดียวโดยไม่ฟังคนอื่นๆ ซึ่งศิลปะในการพูดคุยกับผู้คนบนเฟซบุ๊ค คุณจะต้องไม่เน้นการขายของมากเกินไป พูดถึงสิ่งที่คนกำลังสนใจในตอนนั้น และสื่อสารให้ถูกจังหวะและโอกาส และลองพูดคุยปฏิสัมพันธืกับคนที่เข้ามาในหน้าของเรา ช่วยเหลืออะไรในสิ่งที่เราสามารถช่วยเหลือได้ หรือจะไปใช้ในส่วนของ "พูดคุย  (Discussion)" ในการพูดคุย ตั้งคำถามกับลูกค้าว่า ใช้สินค้าไปแล้วเป็นยังไงบ้าง


     
  • เรียกลูกค้ากลับมาเมื่อไรก็ได้
    เนื่องจากสมาชิกเราในเฟซบุ๊คอาจจะไม่ได้มีโอกาสกลับมาหน้าของเราในทุกๆวัน ดังนั้นการเรียกและสื่อสารกับลูกค้าคุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใน Facebook Page จะมีบริการส่งข้อความหา สมาชิกทั้งหมดของคุณได้ โดยคุณสามารถใส่เนื้อหาและข้อความที่คุณต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าของคุณได้ทันที โดยข้อความที่ส่งเข้าไป จะเข้าไปในส่วนของ "ข้อความ (Message)" ของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งจะคล้ายๆ กับการส่ง Email Marketing ออกไปหาสมาชิก ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือ สามารถส่งถึงกลุ่มเป้าหมายเราได้อย่างแน่นอน วิธีการใช้งาน กดที่ Edit Page แล้วไปที่ Marketing แล้วเลือก Send an Update
    •
  • กระตุ้นให้สมาชิกพูดถึงสินค้าของคุณในทางที่ดี
    การกระตุ้นให้คนในเฟซบุ๊คของเรา พูดถึงสินค้าและบริการของเราในทางที่ดี จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนอื่นๆ ที่ยังไม่เคยใช้สินค้าของเราอยากใช้ตามด้วย เพราะเดียวนี้ คนจะเชื่อในสิ่งที่คนอื่น พูดถึงสินค้าและบริการมากกว่า การเห็นตามโฆษณาทั่วไป ดังนั้นหากเราสามารถกระตุ้นให้คนในหน้าเฟซบุ๊คของเรา พูดถึงสินค้าหรือบริการของเราในทางที่ดี ข้อมูลเหล่านั้นก็จะไปแสดงในหน้าของเค้าด้วยเช่นกัน นั้นหมายถึงเพื่อนๆ ของเค้าก็จะเห็นข้อความนี้ด้วย ซึ่งโอกาสที่เพื่อนๆ ที่เห็นที่คลิกเข้ามาจะมีโอกาสเชื่อและซื้อสินค้ามากว่าการเห็นโฆษณาทั่วๆ ไป แต่ในทางกลับกัน หากเค้ามาว่าหรือด่าเรา มันก็จะกลายเป็นดาบสองคมในทันที ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับลูกค้าบนเฟซบุ๊คให้มากๆ เลยทีเดียว

     

  • สร้างกิจกรรมเล่นเกมส์ผ่าน Facebook เพื่อเพิ่มยอดขาย 
    การจัดกิจกรรม หรือเล่นเกมส์กับกลุ่มลูกค้าของคุณบน facebook ทำให้เค้าได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรม  ส่วนเกมส์ที่เล่นถ้าจะให้ง่ายที่สุดที่ เช่น การตั้งคำถามในหน้าเฟซบุ๊คแล้วให้คนที่ตอบอันดับที่เท่าไรใน หัวข้อนั้นๆ เป็นผู้ที่ได้ของรางวัลไป เกมส์ง่ายๆ แบบนี้ จะช่วยดึงดูดให้คนอยากเข้ามาร่วมเล่นบน Facebook ของคุณอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่วนของรางวัลที่ได้อาจจะเป็นของหรือคูปองใช้บริการหรือสินค้าของธุรกิจคุณ อาจจะเป็นฟรี หรือให้ส่วนลด 10-60% ซึ่งจะเป็นการดึงลูกค้าจาก Facebook (online) ไปยังหน้าร้านหรือธุรกิจของคุณ (Offline) ได้อย่างดียิ่ง

     

  • การเชื่อมโยงหน้าเฟซบุ๊คคุณไปยังหน้าสินค้า E-Commerce ของคุณ การนำข้อมูลสินค้าและบริการของคุณมาเล่าและพูดถึงในหน้าเฟซบุ๊คของคุณ ควรจะเป็นการเล่าว่าสินค้านี้คืออะไร มันดีอย่างไร ไม่ใช่เน้นแต่จะขายสินค้าเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญที่สุด เมื่อพูดถึงสินค้าชิ้นไหนแล้ว อาจจะใส่ลิงค์ไปยังหน้าของสินค้าชิ้นนั้นๆ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดโอกาสให้สามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ ได้ทันที แต่ทั้งนี้ เว็บไซต์ของคุณต้องรองรับกับระบบการซื้อขายออนไลน์ด้วย ลองดูตัวอย่างของ ระบบเฟซบุ๊คที่สามารถสามารถเชื่อมต่อกับระบบซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทันทีของ TARAD.com ที่ http://apps.facebook.com/taraddotcom
    •
  • ลงโฆษณาผ่าน Facebook Ads
    สำหรับผู้ที่มีเฟซบุ๊คแต่ยังมีแฟนหรือสมาชิกไม่มาก การเลือกลงโฆษณากับเฟซบุ๊คก็ดูเป็นวิธีการที่ง่ายที่จะดึงลูกค้าเข้ามาหาเราได้ทันที แต่วิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการทำ โดยทางเฟซบุ๊คจะคิดค่าใช้จ่ายเป็น ต่อครั้งการคลิก (CPC – Cost Per Click) หรือ ต่อครั้งการแสดง (CPM) โดยเราสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจนว่าคุณจะจ่ายต่อวันเท่าไร เริ่มต้นได้ที่ $1 (30 บาท) และสามารถบริหารทุกอย่างเองได้หมด โดยชำระเงินค่าโฆษณาผ่านบัตรเครดิต ดุเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ads

 

วัดว่าได้ผลหรือไม่

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือ "การวัดผล (Measurement)" ว่าการสื่อสาร หรือการตลาดที่เราทำผ่านเฟซบุ๊คไปได้ผลหรือไม่? โดยวิธีการง่ายๆ โดยคุณสามารถติดตั้งระบบเก็บสถิติและเก็บข้อมูลเว็บไซต์ อย่างเช่น Google Analytics ในเว็บไซต์ของคุณและวัดผลว่ามีลูกค้ามาเข้ามาที่เว็บไซต์คุณจากเฟซบุ๊คกี่คน และดูว่ามียอดขายเกิดขึ้นจากหน้าเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้นแค่ไหน หรือจะลองถามการสุ่มถามลูกค้าที่ซื้อว่า เห็นสินค้านี้จากที่ไหนก็อาจจะเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้

 

 

เห็นไหมครับ จากวิธีการที่กล่าวมาทั้งหมด จะเป็นวิธีการที่จะช่วยทำให้คุณสามารถนำ เฟซบุ๊คมาช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้ทันที และจะเห็นได้ว่า ยิ่งเฟซบุ๊คของคุณยิ่งมีแฟนหรือสมาชิกมากเท่าไร โอกาสที่เราจะสามารถสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากๆ ก็มีด้วยเช่นกัน นั้นหมายถึงโอกาสการขายสินค้าก็มีมากด้วย แต่อย่างที่เตือนเอาไว้ครับว่า การขายของผ่านเฟซบุ๊คอย่าไปยัดเยียดหรือเน้นการขายมากเกินไป มันควรเป็นรุปแบบละมุ่นละม่อมค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเหมือนเพื่อนบอกเพื่อนมากว่า ถึงจะมีโอกาสสำเร็จได้ เอาอ่านจบแล้วก็ได้เวลาไปทำกันจริงแล้วละ ได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงก็มาเล่าให้ฟังกันได้นะครับ