ผมว่าคุณคงจะเป็นคนนึงที่เคยได้รับอีเมล์ที่ส่งมาบอกว่า "ทำงานที่บ้านได้ง่ายๆ รายได้เดือนเป็นแสน" หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า "มันทำได้จริงๆ ไหม? แล้วรูปแบบมันเป็นอย่างไร? แล้วเราจะทำยังไงถึงจะสามารถสร้างรายได้จากการอินเทอร์เน็ตได้อย่างจริงๆ จังๆ?" ทั้งหมดนี้มักเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคงอยากรู้หลังจากได้เห็นโฆษณาหรือ อีเมล์ชักชวนในการเริ่มต้นการหาเงินออนไลน์ เรามาดูกันว่ามันเป็นยังไงและทำอย่างไรเราถึงจะหาเงินออนไลน์ได้อย่างถูกวิธี
p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 12.0px Arial}
p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 12.0px Arial; min-height: 14.0px}
p.p3 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 18.0px Arial}
p.p4 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Verdana; min-height: 16.0px}
p.p5 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Verdana; color: #747474}
p.p6 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 12.0px Verdana}
p.p7 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 12.0px Verdana; min-height: 15.0px}
p.p8 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 13.0px Verdana}
p.p9 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 18.0px Verdana}
span.s1 {font: 13.0px Verdana}
span.s2 {font: 12.0px Arial; color: #000000}
span.s3 {font: 12.0px Arial}
span.s4 {font: 13.0px ‘Microsoft Sans Serif’}
span.s5 {font: 12.0px Verdana}
span.s6 {font: 12.0px Verdana; text-decoration: underline ; color: #1b00ee}
ทำงานที่บ้าน รายได้เป็นแสน มีจริงเหรอ?
คุณอาจจะเคยเห็นโฆษณา ท างหนังสือสมัครงาน หรือว่าเว็บไซต์ว่า ทำงานพาร์ททาม รายได้ 500-2,000 บาท ต่อวัน หลายคนก็เลยอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร ทำไมรายได้มันถึงดีจังเลย? หลังจากที่มีหลายๆ คนได้มีการติดต่อเข้าไป พบกว่า "ส่วนใหญ่" งานที่ติดต่อเข้าไป จะเป็นลักษณะของ "แชร์ลูกโซ่ (Money Game)" ซึ่งลักษณะของ จะเป็นการชักชวนไปฟังงานสัมมนา และให้ซื้อสินค้า เพื่อจะได้เป็นหัวหน้าทีม และขยายการขายออกไปยังกลุ่มเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นี้ โดยรายได้จะมาจากการชักชวนคนรอบๆ ตัวคุณไปร่วมงาน และในช่วงแรกก็จะอาจจะมีรายได้ แจกจ่ายผู้เข้าร่วมธุรกิจอย่างทั่วถึง แต่ผลก็คือ มีการตอบแทนผลประโยชน์ในช่วงต้น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมลงทุนในธุรกิจให้ต่อเนื่องจนเมื่อถึงจุดที่ผู้ประกอบการระดมทุนสำเร็จตามจำนวนที่หวังไว้ก็จะหาทางปิดตัวบริษัทเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายผลประโยชน์ในลำดับชั้นต่อ ๆ ไป หรืออาจจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าผู้เข้าร่วมธุรกิจที่เข้ามาในระยะหลังมีมากขึ้นจนไม่สามารถหมุนเวียนเงินตอบแทนเพื่อจ่ายผลประโยชน์ได้ก็จะเริ่มปิดบริษัทครับ
(กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ข้อสังเกตครับว่า หากมีการเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า 20% ต่อปี หรือผลตอบแทนที่สูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือแม้แต่ 1 ปี ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่)
มีคนมากมายที่ต้องหมดเงินและเสียความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนไป จากการหลงเข้าไปอยู่ในกลุ่มของธุรกิจประเภทนี้ แต่เราอาจจะเคยได้ยิน คำว่าธุรกิจขายตรง มาด้วยกันเช่นกัน แล้ว ธุรกิจขายตรง มันต่างจาก แชร์ลูกโซ่ยังไง
ธุรกิจขายตรงคือ?
การขายตรงนั้นชัดเจนอยู่แล้วครับว่าเป็นธุรกิจที่เน้นขายสินค้าจริงๆ และสินค้าที่ขายนั้นต้องไม่มีราคาเกินจริงตามคุณภาพที่น่าจะเป็นจริงผ่านกระบวนการสร้างทีมงานเป็นเครือข่าย และมีผลตอบแทนจากการขายเป็นลำดับขั้น รายได้หลักของสมาชิกที่ทำธุรกิจขายตรงจะได้มาจากเปอร์เซ็นต์จากการขาย เป็นหลัก ไม่ได้มาจากการชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไปขาย ยกตัวอย่างธุรกิจขายตรงเช่น ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจที่ลงโฆษณาขายสินค้าในโทรทัศน์และเดินตลาดตามบ้าน หรือแม้แต่สาวยาคูลย์ ก็ถือว่าเป็นธุรกิจขายตรงเช่นกัน เห็นอย่างนี้ ก็เริ่มพอแยกออกได้แล้วใช่ไหมครับว่าแชร์ลูกโซ่ต่างจากธุรกิจขายตรงยังไง แล้วทีนี้ เราจะหารายได้จากอินเทอร์เน็ตจริงๆ จังๆ ยังไงได้บ้าง?
การหาเงินจากการอินเทอร์เน็ตอย่างได้จริงๆ
หากผมจะแบ่งวิธีการหาเงินผ่านอินเทอร์เน็ตออกเป็นหลายๆ วิธีเพื่อความเข้าใจง่ายๆ สำหรับสาวๆ ที่สนใจ
1. การแนะนำและเป็นนายหน้าสินค้า (Affiliate Commerce)
เดียวนี้เราสามารถหาเงินได้จากการแนะนำ หรือบอกต่อให้คนไปซื้อสินค้ายังเว็บไซต์ต่างๆ แล้วเมื่อคนที่คุณแนะนำหรือส่งคนไปยังเว็บไซต์เหล่านั้นซื้อของ (วิธีการแนะนำก็คือ เค้าต้องคลิกจากเว็บไซต์ของเราไป) เราก็จะได้ค่านายหน้าหรือค่าแนะนำ (Affiliate Fee) โดยในเมืองไทยตอนนี้ สินค้าที่เราสามารถนำไปแนะนำและบอกต่อ มักจะเป็น โรงแรม, ทั่วร์, แต่หากเป็นของเมืองนอกจะมีความหลากหลายมากกว่า เช่น การนำสินค้าของ Amazon.com ไปขาย หรือมีเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลางในการหาสินค้าไปแนะนำเพื่อหารายได้ๆ เช่น http://www.CJ.com, http://www.Linkshare.com เป็นต้น หลังจากลูกค้าซื้อสินค้าจากการคลิกมาจากเว็บไซต์ของคุณ คุณจะสามารถเห็นรายการว่า ลูกค้าซื้อเท่าไร คุณจะได้รายได้เท่าไร หลังจากนั้น เค้าจะส่งเป็นเช็กมาให้กับคุณเมื่อยอดเงินครบและถึง
2. การติดโฆษณาในหน้าเว็บของเรา (Ads Network)
เดียวนี้หลายๆ คนมีเว็บไซต์หรือ บล็อค (Blog) เป็นของตัวเองที่เอาไว้เขียนเรื่องราวต่างๆ แต่มันจะดีไหมหนอ หากเว็บบล๊อคของเราสามารถสร้างรายได้ๆ จากการนำโฆษณามาติดเอาไว้ โดยรายได้จะได้จากการที่มีคนมาคลิก (Pay Per Click) ที่ โฆษณาที่เราไปเอามาลงไว้ในเว็บของเรา เราก็จะได้เงินจากผู้ให้บริการเหล่านั้น โดยตอนนี้มีผู้ให้บริการโฆษณาที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถนำโฆษณาไปติดไว้ที่เว็บไซต์คุณ หลายแห่งเช่น Google Adsense ( www.google.com/adsense) หรือของไทย เช่น www.bumq.com, http://media.nipa.co.th สำหรับคนที่มี Facebook เค้าไม่อนุญาติให้เรานำโฆษณาไปติดนะครับ ว้า.. อดเลย
3. การขายสินค้าทางออนไลน์ (E-Commerce)
การขายของทางอินเทอร์เน็ตกำลังเริ่มเป็นที่นิยมของสาวๆ สมัยใหม่กันมากขึ้น เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรมาก สินค้าเดียวนี้ก็ไปรับมาขายกันง่ายมากขึ้นจากแหล่งต่างๆ และใช้วิธีการไปลงประกาศขายสินค้าของตนตามเว็บไซต์ประกาศซื้อ-ประกาศขายฟรี ต่างๆ โดยไม่มีเว็บไซต์ของเอง เช่น http://www.ThaiSecondhand.com หรือบางคนก็อาจจะ เปิดเว็บไซต์ของตัวเอง และนำสินค้าไปขายอยู่ในนั้น และทำการโปรโมทดึงให้คนเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บของตน โดยในเว็บอาจจะมีระบบรับชำระเงินออนไลน์อย่าง บัตรเครดิต หรือจะโอนเงินผ่านธนาคารก็เป็นวิธีที่ฮิตมากอยู่ในปัจจุบัน ลองไปทดลองสร้างเว็บไซต์ร้านของตัวเองฟรีๆ ได้ที่ http://www.TARADquickweb.com รูปแบบนี้ง่ายและเหมาะสมกับสาวๆ ที่มีงานทำอยู่แล้ว และอยากจะลองทำธุรกิจออนไลน์ควบคู่กันไปด้วยได้ โดยไม่กระทบกับงานประจำ
จะเห็นได้ว่าเดียวนี้มีวิธีการสร้างรายได้ทางออนไลน์ หลายรูปแบบ มีทั้งแบบที่สามารถทำได้จริงๆ และบางอย่างเป็นการหลอกลวง คุณเองก็ต้องดูให้ดีๆ ก่อนที่จะไปตัดสินใจนะครับ แต่ถ้าหาคุณเข้าใจมันจริงๆ ผมเชื่อวาคุณเองจะสามารถสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับตัวเองผ่านช่องทางนี้ หรือสามารถสร้างเป็นธุรกิจของตัวเองได้เลยบนโลกออนไลน์ ที่ผ่านมาผมเห็นก็มีมากมายหลายคนแล้วครับ อ่านมาถึงตรงนี้ คุณล่ะจะเลือกสร้างรายออนไลน์รูปแบบไหนดี? หากสนใจเรื่องนี้เพิ่มเติมลองเข้าไปอ่านได้ที่ http://www.Pawoot.com/startup นะครับ