คุณรู้ไหมว่า Canonical Tag คืออะไร?  จริงๆ แล้วมันเกี่ยวข้องกับ SEO หรือการปรับแต่งเว็บให้ติด Search Engine การใส่ Canonical tag เอาไว้ที่เว็บ เพื่อเป็นการลดและป้องกันการ เกิดข้อมูลซ้ำ (duplicate content) ของเว็บเรา ซึ่งหาก Google ทราบว่าเว็บเรามีข้อมูลซ้ำกับที่อื่น ก็จะทำให้หน้าของเราด้อยค่าลง และโอกาสในการค้นหาเจอใน Google ก็จะน้อยลงเช่นกัน ดังน้นการใช้ Canonical Tag จะเป็นการแจ้ง Google ว่าหน้าเว็บเรามีหน้าไหนก็ลักษณะคล้ายๆ กัน ซึ่งการใช้จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเว็บเราดีขึ้น เมื่อ Google ทราบถึงข้อมูลนี้ 

แล้วเราจะใส่ Tag นี้อย่างไร มาดูตัวอย่างจริงๆ กัน เข่นบทความในเว็บผม อาจจะมี URL คือ http://www.pawoot.com/twitter แต่จริงๆ แล้วระบบเว็บของผมมันสร้าง URL อีกอันนึงขึ้นมา และสามาถรเข้าได้เหมือนกันคือ http://www.pawoot.com/node/311  และ http://www.pawoot.com/content?id=311 ดังนั้น Google อาจจะมองว่า ทั้งสามหน้านี้มันมีข้อมูลที่ซ้ำกัน (Google มองจาก URL เป็นหลัก)

ซึ่งหากเรามีข้อมูลเว็บไซต์เหมือนกันทั้ง 3 หน้า 3  URL Google จะลดความสำคัญของหน้าเหล่านี้ลง เพราะถูกมองว่า ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ซ้ำกัน (duplicate content)

แต่หากเราต้องการให้ http://www.pawoot.com/twitter เป็นหน้าเว็บที่ติดอันดับในการค้นหาใน Google  และเราไม่สนว่าหน้าอื่นๆ จะติดอันดับหรือไม่ เราก็ต้องจะแจ้ง Google โดยการใส่ Tag ที่ใส่เพิ่มลงไปใน Header HTML Tag
 

<link rel=”canonical” href=”http://www.pawoot.com/twitter″&gt;

โดยใส่เข้าไปในส่วน <head> ของหน้าที่ไม่ต้องการให้ติดอันดับในการค้นหาคือหน้า http://www.pawoot.com/node/311 และ http://www.pawoot.com/content?id=311 (จริงๆ มันอาจจะเป็นหน้าเดียวกันก็ได้)


เพียงเท่านี้หน้าหลักของเราก็จะไม่โดน Google มองว่าเป็นหน้าที่ซ้ำกัน (duplicate content) ซึ่งจะส่งผลทำให้โอกาสติดการค้นหาดีมากขึ้นครับ ซึ่งตรงนี้ เหมาะกับเว็บที่มี ข้อมูลซ้ำๆ กันครับ

 มาลองดู VDO ที่นาย Matt Cutts ที่เป็นผู้เชียวชาญเรื่อง Search Engine ของ Google พูดถึง Canonical กันครับ