รู้สึกว่าตัวคุณเองเปลี่ยนไปบ้างไหม?

คุณเป็นหรือเปล่า เดียวนี้ดูทีวีน้อยลง รายการทีวีที่ชอบหรือละครดูไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะเดียวก็ตามกลับไปดูใน Youtube ตอนไหนก็ได้ หรือ เดียวนี้คุณรู้ข่าวสารเร็วกว่าหนังสือพิมพ์ของเช้าอีกวันนึงเสียอีก หรือ เสียเงินส่งค่าเอสเอ็มเอส (SMS) น้อยลง (แต่จ่ายเงินค่าอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมากขึ้น หรือเหมาจ่ายไปเลย) หรือ เจอหน้าเพื่อนที่ไม่เจอกันมาหลายปี แต่พอเจอหน้าก็สามารถทักทายกันได้เหมือนเจอกันทุกๆวัน เพราะเห็นว่าเค้าทำอะไรบ้างผ่านเฟซบุ๊ค เดียวนี้แทบไม่เคยนั่งเหมอมองหน้าต่างเวลานั่งรถไปไหน หรือเวลากินข้าวแทบไม่ได้มองหน้าคนที่นั่งทานด้วย เพราะตามั่วแต่จดจ้องหน้าจอมมือถือหรือแท็ปเล็ตตลอดเวลาที่ว่าง เข้าห้องน้ำทีก็นานกว่าปกติ เพราะนั่งไปมือก็กดมือถือไป พฤติกรรมทั้งหมดที่ผมเกริ่นมานี้ คุณเป็นบ้างไหมครับ?

หากคุณพบว่า คุณมีพฤติกรรมคล้ายๆ กับที่ผมเกริ่นมาข้างต้น แสดงว่าพฤติกรรมของคุณกำลังเปลี่ยนไป โดยคุณกำลังเริ่มต้นเข้าสู่การบริโภคข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางคอมพิวเตอร์ หรือทางอุปกรณ์พกพาต่างๆ อย่างมือถือหรือแท็ปเล็ต ชีวิตของคุณกำลังผสานเข้ากับสังคมเสมือนในโลกอินเทอร์เน็ตและโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่างแนบแน่นมากขึ้น วันนี้่่เราต้องยอมรับว่ารูปแบบพฤติกรรมของคุณ หรือคนไทยส่วนใหญ่กำลังจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด และแนวโน้มลักษณะนี้ กำลังขยายวงกว้างออกไปไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่มันกำลังขยายออกไปยังกลุ่มคนเกือบทุกประเทศทั่วโลก

;

คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตสูงเพิ่มขึ้นถึง 25 ล้านคน (ข้อมูลจาก Truehits.net) เรามีจำนวนมือถือมากกว่าประชากรไทย 66 ล้านคนไปแล้ว 3G เริ่มขยายพื้นที่ให้บริการไปทั่วประเทศไทยอย่างรวดเร็ว คนไทยเกือบทุกภูมิภาคสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายผ่านมือถือ Facebook กลายเป็นช่องทางการสื่อสารใหม่ของคนไทย ที่ตอนนี้มีคนใช้มากว่า 15 ล้านคน และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประหนึ่งหากคุณไม่มีเฟซบุ๊คแล้วคุณจะเชยระเบิด เด็กๆ อายุ 9-10 ขวบเริ่มมี Facebook แล้ว หรือแม้แต่หมา แมว ก็ยังมี Facebook (เจ้าของสร้างขึ้นมาให้)

;

ทำให้ตอนนี้ช่องทางการสื่อสารของคนไทยตอนนี้แทบจะเปลี่ยนไปอย่างได้ชัด สื่อเดิมๆ อย่าง ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ เริ่มลดบทบาทตัวเอง คนเริ่มเสพสื่อเหล่านี้ลดน้อยลง หลายคนเดียวนี้อยากรู้ อยากเห็นอะไร ก็แค่กดคอมพิวเตอร์หรือหยิบมือถือขึ้นมา กดไม่กี่ทีก็สามารถได้ข้อมูลที่ต้องการได้แล้ว พฤิตกรรมเหล่านี้ กระทบต่อการทำการตลาดอย่างมาก โดยหากธุรกิจของคุณยังคงทำการตลาดรูปแบบเก่าๆ สื่อสารในช่องทางเก่าๆ โอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าของคุณก็จะเริ่มลดน้อยลง ความมีประสิทธิภาพ (Efficiency) ของสื่อและการตลาดแบบเดิมๆ มันลดลงไปจากเมื่อก่อนอย่างมาก รูปแบบการตลาดแบบๆ ใหม่ๆ ที่ผ่านทางช่องทางอินเทอร์เน็ต ออนไลน์ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก หรืออุปกรณ์พกพา เริ่มได้ผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากธุรกิจหรือองค์กรของคุณยังคงพึ่งสื่อรูปแบบเดิมๆ อย่างทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ แบบนี้อีกต่อไป การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณก็จะเริ่มลดประสิทธิภาพลง นั่นหมายถึงประสิทธิผลหรือผลลัพย์ทางธุรกิจของคุณก็จะลดต่ำลงเช่นเดียวกัน

;

ในปัจจุบันเริ่มมีหลายๆ บริษัท องค์กร และธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวเอง เริ่มนำธุรกิจของตัวเอง เข้าสู่โลกออนไลน์และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กมากขึ้น บ้างทำได้ดีมากๆ บ้างทำตามกระแส เห็นชาวบ้านเค้าทำกันแล้วก็ทำตาม บ้างก็เห็นคู่แข่งมี Facebook มีคนกด Like เยอะก็เร่งโหมให้ทีมการตลาดไปแข่งทำให้ Like ของตัวเองให้โตขึ้นตามโดย ใช้เงินมากมาย แต่สุดท้ายแค่ Like เยอะขึ้นแต่ประสิทธิภาพการตลาดและการสื่อสารของธุรกิจไม่ดีขึ้นเลย ง่ายๆ คือทำแบบขาดกลยุทธ์ ดังนั้นการที่บริษัทต่างๆ อยากจะเริ่มต้นการนำธุรกิจเข้าสู่ โลกออนไลน์หรือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ไม่ใช่สักแต่เข้าไปหรือสร้างมันขึ้นมา มันต้องมีกลยุทธ์ที่สอดประสานกับธุรกิจ และมีแผนที่จะช่วยพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการสื่อสาร การตลาดของธุรกิจด้วย

;

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ อยากให้ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ หลายๆ คนเริ่มตระหนักว่า โลกเรา ประเทศเรา คนรอบข้างเรา รวมถึง “ตัวเรา” เองเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปหมดแล้วครับ มันอาจจะค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่มันจะเริ่มเร็วมากขึ้นๆ ซึ่งผมอยากจะบอกคุณว่า มันถึงเวลาแล้วครับ ที่คุณเองก็จะต้องเปลี่ยนวิธีคิด วิธีการสื่อสารและวิธีการทำการตลาดด้วยเช่นกัน หากคุณไม่ปรับตัวตอนนี้ เพราะบอกว่า คุณใช้ไม่เป็น คุณเป็นคนยุคเก่า คุณแก่แล้ว คุณโง่ ดูสิคนรอบตัวคุณไม่เห็นใครใช้เลย ผมอยากให้คุณลองเปิดตากว้างๆ แล้วลองดูใหม่ดีๆ หรือไปดูคู่แข่งของคุณ ว่าตอนนี้เค้าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว เค้าใช้สื่อรูปแบบใหม่ๆ อย่างไร เพราะหากคุณไม่ปรับตัว และมัวแต่คิดว่าตัวเองทำดีอยู่แล้ว ก็เตรียมตัวตัวนับถอยหลังถึงความพ่ายแพ้ได้แล้วครับ เหมือนเดิมหากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ พิมพ์ไปหรือตัดไปวางไว้บน
โต๊ะหัวหน้าคุณได้เลยครับ หรือชักสนใจ… ไปอ่านบทความ เกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ในเว็บผมได้นะ ฟรีเลยล่ะ http://www.pawoot.com

;

;

;