ถ้าพูดถึงคำว่าไลค์ (Like) หรือ “ชอบ” ทุกวันนี้ทุกคนก็จะนึกถึง Facebook ใช่ไหมครับ บทความนี้หลายคนอาจจะแปลกใจว่า เอ…ทำไมวันนี้ผมมาแปลก ที่เชิญชวนให้มาหยุดล่าคนกดไลค์ แล้วอย่างงี้เราจะทำธุรกิจได้อย่างไร ถ้าไม่มีไลค์เราจะทำธุรกิจบนเฟสบุ๊ค ได้อย่างไร? วันนี้ผมมีคำอธิบายครับ
ปัจจุบันธุรกิจร้านค้าต่างๆ ในเมืองไทย ต่างหันเข้ามาใช้เฟซบุ็ค เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและเป้าหมายกันอย่างมาก โดยตัวเลขที่ใช้วัดว่า เฟซบุ็คของธุรกิจคุณมีคนนิยมเข้ามาใช้บริการ ก็คือ จำนวนคนกดไลค์ (Like) หรือ “ชอบ” ยิ่งมีคนไลค์มากเท่าไร ยิ่งทำให้ธุรกิจคุณสามารถเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจได้มากขึ้นเท่านั้น บางแห่งเริ่มนำมาใช้เป็นตัวเลขวัดผลความประสบความสำเร็จของการทำการตลาดผ่านทางเฟซบุ็ค โดยวัดผลกับเฟซบุ็ค ของคู่แข่ง จึงทำให้ ตอนนี้บริษัทหรือธุรกิจต่างๆ หันมาสร้างหรือไล่ล่า จำนวนไลค์กัน อย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยไม่สนว่าคนที่เข้ามากดไลค์จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราหรือไม่ก็ตาม
โดยตอนนี้เฟสบุ๊คเพจของคนไทยที่มีจำนวนคนกดไลค์ที่มากกว่า 2 ล้านคน มีทั้งหมด 3 เพจ และมีคนกดไลค์มากกว่า 1 ล้านคน ทั้งหมด 20 เพจ (อ้างอิงจาก http://zocialrank.com/facebook) แต่คุณเชื่อไหมครับว่า หากมองย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2012 ที่ผ่านมา หรือ 6-7 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยมีเฟสบุ๊คเพจที่มีจำนวนคนกดไลค์มากกว่า 1 ล้านคน เพียงแค่ 2 เพจเท่านั้น นั้นก็คือเฟซบุ็คเพจของ คุณตัน อิชิตัน และ วงดนตรีบอดี้สแลม แต่ทำไมผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนกลับมีเฟซบุ๊กเพจที่มีจำนวนคนกดไลค์มากว่าล้านเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เพจเลยทีเดียว มันเกิดอะไรขึ้น?
ด้วยตัวเลขคนกดไลค์เยอะมากขึ้น ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยนิยมใช้เฟสบุ๊คมากขนาดไหน โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่ติดลำดับเมืองที่มีประชากรใช้เฟสบุ๊คมากที่สุดในโลก แต่การที่มีประชากรใช้เฟสบุ๊คเยอะ ก็ไม่จำเป็นที่เฟสบุ๊คเพจต่างๆ จะมีจำนวนการเติบโตสูงตามไปด้วย แล้วปัจจัยอะไรละ? ที่ทำให้เฟสบุ๊คเหล่านั้นเติบโตด้วยยอดไลค์สูงได้ขนาดนั้น
ทำไม Facebook หลายเพจคนไลค์ทะลุล้านเร็วมาก?
เมื่อช่วง หลายเดือนที่ผ่านมา มีคนไทยหลายกลุ่มที่สนใจเฟซบุ็ค ได้คิดกลยุทธ์ต่างๆ มายมายที่จะ “หลอกล่อให้เรากดไลค์ ที่เฟซบุ๊คเพจที่เขาสร้างขึ้นมา” โดยบางครั้งคุณอาจจะกดไลค์ไปโดยที่คุณเองไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ซึ่งวิธีการก็มีด้วยกันหลายวิธี เช่น การสร้างแอพขึ้นมาให้สุ่มรูปภาพทำนายคู่รัก เพื่อนรักขึ้นมาเมื่อคุณกดไลค์ หรือจะเป็น การมีเกมส์หรือของรางวัลมาให้เล่นหรือล่อ หรือการโพสหรือลงประกาศข้อความพาดหัวให้เชิญชวนให้อ่านในเฟซบุ๊คเพจ หรือหากคุณอยากอ่านข่าว อยากดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ คุณต้องกดไลค์เพจก่อน คุณถึงจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ (แหม… ช่างแยบยลนัก) เป็นต้น โดยทุกวิธีการที่กล่าวมา ใครจะเข้ามาร่วมเล่น หรือเข้ามาดูคุณจำเป็นจะต้องกดไลค์ในเฟซบุ๊คเพจนั้นก่อน ซึ่งบางแห่งก็ใช้วิธีการติดปุ่มไลค์เพจไว้ที่เว็บไซต์เลย
วิธีการเหล่านี้แหล่ะครับ เป็นวิธีการสร้างให้คนกดไลค์เฟซบุ๊คเพจ ในรูปแบบและวิธีใหม่ และเป็นเทคนิคสำคัญที่ทำให้หลายๆ เฟซบุ็คเพจมีคนเข้ามากดไลค์สูงขึ้นจนผิดปกติ และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก
คุณถูกพูดถึงเท่าไร (Talking About) คือสิ่งที่คุณควรสนใจมากว่า
เฟสบุ๊คเองได้มองเห็นปัญหาของการไล่ล่าให้คนกดไลค์กันอย่างบ้าคลั่งอย่างไร้เหตุผล เฟสบุ๊คจึงกำหนดค่าตัวเลขใหม่ขึ้นมา ที่ชื่อว่า “ถูกพูดถึง (Talking about this)” ซึ่งค่าของตัวเลขนี้จะมาจาก จำนวนคนที่เข้ามาส่วนร่วม (Engage) หรือมีกิจกรรมกับเฟซบุ๊คเพจของคุณ เช่น การเข้ามากดไลค์ในแต่ละข้อความ, การแชร์ (Share) หรือแบ่งปันข้อความของคุณออกไป, การเข้ามาโต้ตอบ หรือเขียนข้อความลงในหน้าเฟซบุ๊คเพจของคุณ หรือเข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่คุณมีในเฟซบุ็คของคุณ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะทำให้ค่าของ “ถูกพูดถึง (Talking about this)” เพิ่มมากขึ้น
นั้นหมายความว่า ถ้าเฟซบุ็คเพจไหนมีจำนวนคนกดไลค์เยอะ แต่ค่าตัวเลข “ถูกพูดถึง (Talking about this)” ต่ำ นั้นแสดงว่าเฟซบุ๊คเพจนั้นๆ ไม่ได้รับความสนใจจากสมาชิกในเพจนั้นๆ นั้นหมายถึงคุณพูดหรือสื่อสารอะไรออกไป ก็ไม่มีคนเห็น ไม่มีคนดู ซึ่งมันหมายถึงประสิทธิภาพในการสื่อสารไปยังลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายก็น้อยลงด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการที่จะดูตัวเลข “ถูกพูดถึง (Talking about this)” ก็สามารถเข้าดูได้ที่หน้าเฟซบุ๊คเพจของคุณ มันจะอยู่ข้างๆ ตัวเลขไลค์ ด้านบนครับ (ดูภาพด้านล่างประกอบ)
ส่วนวิธีการที่จะทำให้เฟซบุ็คเพจของคุณ “ถูกพูดถึง (Talking about this)” เพิ่มมากขึ้น คุณต้องเพิ่มการ “มีส่วนร่วม” กับเฟซบุ๊คเพจนั้นๆ โดยมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่สำคัญได้แก่ ลักษณะการพูดคุยแบบเป็นมิตร, การตอบคำถามสมาชิกในเพจอย่างสม่ำเสมอ, คุณภาพของข้อมูลที่นำมาลง, การสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิกในเพจ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็น ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ สมาชิกที่กดไลค์เพจของเราออกมามีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์ (Interact) กับธุรกิจหรือสินค้าของเรามากขึ้นผ่านทางเฟซบุ๊คเพจ และเมื่อสมาชิกมีส่วนร่วมกับคุณมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะสามารถสื่อสารและสร้างความเข้าใจในสินค้าหรือบริการของคุณก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป
ทำอย่างไรถึงจะได้ผล?
ปัจจุบันเฟสบุ๊ค ได้ให้ความสำคัญกับค่า “ไลค์” และ “ถูกพูดถึง” พอๆ กันครับ เพราะค่าตัวเลขทั้ง 2 ตัวนี้ ควรจะเติบโตไปพร้อมๆ ซึ่งถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้องและควรทำ เพราะมันจะแสดงให้เห็นถึง “ความมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณผ่านทางเฟซบุ็ค” ลองเริ่มเปรียบเทียบตัวเลข “ถูกพูดถึง” ของคุณกับคู่แข่งของคุณ ว่าใครมีประสิทธิภาพ (Efficiency) มากกว่ากัน จะดีกว่าที่มาดูแต่ตัวเลขคนกดไลค์เพียงอย่างเดียว ดังนั้นถ้าใครยังคิดว่า ต้องมีตัวเลขคนกดไลค์ในเฟซบุ็คต้องเยอะไว้ก่อน ผมต้องบอกว่า เชย มากๆ เลยล่ะครับ อยากลองดูว่าคู่แข่งของคุณ หรือว่าในประเทศไทย เฟซบุ็คเพจไหนมีถูก “พูดถึงมากที่สุด” ลองไปดูได้ที่ http://zocialrank.com/facebook ได้เลยครับ
พึ่งฟังการสนทนาจากใน เนชั่นแล้วมาอ่านข้อมูลตรงนี้แล้วได้ความรู้มากขึ้นเลยครับ
ถูกใจถูกใจ
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากๆเลยค่ะได้ความรู้ดี^__^
ถูกใจถูกใจ
จำนวน like ไม่ได้แสดงถึงความสำเร็จของเพจเสมอไป…
ถูกใจถูกใจ
ใครมีรูปเป๊ะๆ เอามาแชร์กันได้เน้อ >>> เป๊ะเวอร์.
ถูกใจถูกใจ
ขอบคุณครับเป็นข้อมูลที่ดีมากๆเลย
ถูกใจถูกใจ
จำนวน like ไม่ได้แสดงถึงความสำเร็จของเพจเสมอไป…
ถูกใจถูกใจ
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆ เลย ให้ความรู้ดีครับ.
http://www.facebook.com/jglorygiftshop
ถูกใจถูกใจ