ปัจจุบันนี้คนไทยเราเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับ-ชม-ข่าวสาร และสื่อต่างๆ ไปอย่างมาก ไม่เฉพาะคนกรุงเทพหรือตามหัวเมืองใหญ่เท่าไร คนต่างจังหวัดเองก็เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้วเช่นเดียวกัน เช่น หลายๆ คนติดตามเพื่อนๆ ว่าทำอะไรผ่าน เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือต้องค้นหาข้อมูลหรือปัญหาที่ตัวเองต้องการทันทีผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือดูละครและรายการทีวีต่างๆ ทางยูทูป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไปแล้วสำหรับคนไทย แต่สำหรับธุรกิจแและกิจการต่างๆ ผมต้องถามคุณว่า “คุณปรับตัวเองเข้ากับพฤติกรรมคนไทยที่เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง?” บางคนบอกว่าตัวเองไม่ได้ใช้ แต่ลองสังเกตุคนรอบๆ คุณสิ ว่าเค้าใช้หรือเปล่า?

เมื่อพฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนแปลงไปในการรับชมข่าวสาร ทีวี วิทยุ และสิ่งพิมพ์ กลายเป็นช่องทางที่คนบางกลุ่มเริ่มให้ความสนใจ และใช้เวลาน้อยลง แต่กลับกลายเป็นใช้เวลากับสื่อทางด้านดิจิตอลมากขึ้น เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็ปเล็ต ขนาดของหน้าจอที่คนไทยรับชมข้อมูลข่าวสารเริ่มมีหลากหลายขนาดมากขึ้น (multi-screen) จอเล็ก จอใหญ่ ดังนั้นการสื่อสารกับลูกค้าของคุณในช่องทางเดิมๆ คุณอาจจะเริ่มเห็นว่า มันได้ผลน้อยลง การวางแผนการตลาด การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในช่องทางเดิมๆ อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องแล้วในยุคนี้

executive-recruiter-interviews-candidate

เรามีตัวอย่างของความสำเร็จของธุรกิจไทยหลายๆ แห่งที่เริ่มนำสื่อดิจิติอลและสื่อออนไลน์เข้ามาใช้ในการ เพ่ิมการรับรู้ของสินค้า (Awareness) และการเพิ่มยอดขาย (Sale) มากมายหลายกรณี แต่จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดกลาง มีหลายกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นกับธุรกิจขนาดเล็กเช่นเดียวกัน แต่มันยังไม่มากพอ ที่จะเปลี่ยนมุมมองของเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดไทยได้ ดังนั้นหากคุณอยากจะเริ่มต้นนำสื่อออนไลน์เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของคุณ ผมขอสรุปง่ายๆ ได้ดังนี้

 

เพิ่มยอดขาย (Sale)

  • การเริ่มต้นมีเว็บไซต์ และการทำการค้าผ่านทางหน้าเว็บ (E-Commerce) เว็บที่คุณอยู่ปัจจุบันมันเวิรก์หรือเปล่า? ปรับมันดีแล้วหรือยัง?
  • กาารใช้การตลาดผ่านอีเมล์ส่งหาลูกค้าได้ทันที (E-mail Marketing) ส่งหาลูกค้าเป็นแสนๆ คนได้ฟรีๆ
  • การปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้คนที่ค้นหาผ่าน Google ได้เจอคุณเป็นอันดับต้นๆ (Search Engine Optimization) เดียวนี้ใครๆ ก็ใช้ Google ก้ันหมดแล้วทั้งประเทศ นี้คือช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าดีมากๆ ช่องทางนึง

 

การโปรโมตและเพิ่มการรับรู้จักสินค้าและบริการ (Awareness)

  • การลงโฆษณาในเว็บไซต์ตามกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณ
  • การสื่อสารผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย หรือจะลงโฆษณาก็ได้
  • การโปรโมท ธุรกิจผ่านทางยูทูป (Youtube)
  • การทำกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายของคุณให้เข้ามาร่วมเล่นกิจกรรม

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเริ่มต้น การนำธุรกิจของคุณเข้าสู่โลกออนไลน์ ซึ่งแต่ละวิธีสามารถปรับเปลี่ยน และสามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำมากว่าสื่ออื่นๆ เช่น เราสามารถวัดจำนวนคนที่เห็นสื่อทางออนไลน์, วัดผลได้ว่ามีคนซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เท่าไร รวมถึงยังสามารถวัดผลถึงความคุ้มค่า (ROI) ของการลงทุนในแต่ละสื่อได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสิ่งที่ผมเกริ่นมา ไม่ใช่เรื่องยาก และเรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว

 

ส่วนใหญ่องค์กรหรือธุรกิจหลายๆ แห่งที่ยังไม่ได้นำสื่อออนไลน์มาใช้กับธุรกิจ เกิดจาก ผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการไม่เข้าใจในสื่อออนไลน์ ทำให้เมื่อไม่เข้าใจ จึงไม่กล้าที่จะลงมือทำหรือปฏิบัติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้องค์กรเหล่านั้น ไม่เติบโตไปข้างหน้าเท่าที่ควรจะเป็น เพราะจริงๆ แล้ว หากผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการไม่เข้าใจ หรือไม่รู้เรื่อง ก็ควรจะเปิดใจ เปิดรับ และหาคนที่เข้าใจและทำเป็น ซึ่งอาจจะเป็นคนในองค์กรของคุณ หรือคนนอกองค์มาช่วยพัฒนาและนำพาธุรกิจของคุณเข้าสู่โลกออนไลน์  อย่าเอาความไม่รู้ ใช้ไม่เป็น ของคุณ (ผุ้บริหารและเจ้าของกิจการ) มาเป็นตัวขัดขวางการเติบโตของธุรกิจของคุณ  จงเปิดใจให้กว้าง.. แล้วเรียกลูกน้องคุณ หรือคนที่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีออนไลน์มาช่วยธุรกิจของคุณดีกว่า ก่อนที่จะสายเกินไป..    หรือลองไปอ่านเทคนิคและวิธีการต่างๆ ในการนำธุรกิจเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ฟรีๆ ที่ http://www.pawoot.com ครับ  (แนะนำให้นำบทความนี้ ไปวางไว้บนโต๊ะ ของผู้บริหารหรือหัวหน้าของคุณ หากคุณชอบและอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในองค์กรคุณ)