ในปี2558 ประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็จะเข้าสู่ AEC กันแล้ว ซึ่งกระแสในประเทศไทยดูค่อนข้างตื่นตัวกันทีเดียวกับการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจครั้งนี้ แล้วการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันส่งผลอะไรกับประเทศของเรา เศรษฐกิจของเราบ้าง และในการเปลี่ยนแปลงนี้มีโอกาสอะไรซ่อนอยู่บ้างมาดูกันครับ
1. ขยายตลาด….ขยายโอกาส ตลาดใหญ่ขึ้น ฐานการผลิตใหญ่ขึ้น ต่อไปนี้เราจะมองตลาดเพียงคนไทยแค่คนไทย 60 ล้านคนไม่ได้แล้ว ถ้าเปิด AEC เมื่อไหร่ ขนาดตลาดเปลี่ยนแปลงเป็น 2ล้านล้านคนทันที!!! แต่สื่งที่ท้าทายคือ ประชากรก้อนมหึมานี้ล้วนมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในแง่ วัฒนธรรม ดังนั้นเราต้องหา Insight คนในแต่ละประเทศ เพื่อเข้าใจความต้องการที่แท้จริง และทำธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความแตกต่างเหล่านี้ให้ได้
โอกาส : เข้าเว็บ http://www.linkedin.com หาคู่ค้า หรือเจ้าของธุรกิจในประเทศต่างๆ ที่สามารถเป็นคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์เราได้ในประเทศ AEC
2. เคลื่อนย้ายแรงงานเสรี เคลื่อนคนดีๆมาหาเรา
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรีกันมากขึ้น การเคลื่อนย้ายแรงงานผมเห็นหลายคนมักมองในแง่ลบ สมองไหลบ้างล่ะ (คนไทยเก่งๆไปทำงานให้ต่างชาติ) หรือต่างชาติจะมาแย่งงานเราทำบ้างล่ะ เอาจริงๆนะครับ บางทีการกังวลทั้งขึ้นทั้งร่องก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ผมว่าเราลองมองมุมบวก ถ้าคนไหนเก่งเรื่องไหน ก็ให้เขาทำเรื่องนั้นครับ Put the right man, to the right job เราควรดึงศักยภาพในแต่ละประเทศออกมาเพื่อช่วยกันพัฒนาภูมิภาคไปด้วยกัน มากกว่าจะมองว่าชั้นจะได้เปรียบ เสียเปรียบอะไร
โอกาส : ลองเปรียบเทียบและศึกษาความได้เปรียบ เสียเปรียบของแรงงานกับการมาของ AEC ได้จาก 1 หรือ 2
3. เปิดตา เปิดใจ ในการรวมภูมิภาค
การรวมเป็น AEC ทำให้เราตื่นตัวกับมาตรฐานโลกมากขึ้น เป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ เหมือนเราชกมวยอะครับ เคยชกกันแต่ในวัด พอไปลงสนามใหญ่หน่อย บางคนภูมิใจคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว พอไปต่อยเวทีใหญ่ แพ้ครับ ลองเปิดตา เปิดใจมองหาจุดแข็ง ยอมรับจุดอ่อน และดึงศักยภาพของเราออกมาเพื่อตอบโจทย์กับการแข่งขันในระดับภูมิภาคกันดูบ้าง อย่างที่บอกครับ ทุกประเทศมีจุดเด่นต่างกัน จะให้เป็ดไปดำน้ำเก่งเหมือนปลาก็ไม่ใช่ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติพื้นฐานเช่น ความรู้เรื่องภาษาที่สาม หรือความรู้เฉพาะด้านในสายอาชีพของคุณก็ยังจำเป็นนะครับ มันเหมือนการติดอาวุธให้คุณก้าวไปได้ไกลมากขึ้น เพราะฉะนั้น ดึงจุดแข็งกับรักษามาตรฐาน มองหาโอกาสเพื่อพัฒนาตัวเองครับ
โอกาส : ลองค้นหาสินค้าและบริการของคุณในประเทศ AEC เช่นหากคุณขายรองเท้า ลองไปค้นหา รองเท้าในประเทศมาเลย์เซีย อินโดนิเซีย ดูว่ามีใครขายบ้าง ขายอย่างไร เรามีโอกาสไหม ง่ายๆ ใช้ Google นี้แหละครับ แต่ลงท้ายด้วยชื่อประเทศ หรือจะลองใช้ Google Translate แปลเป็นภาษาท้องถิ่น
4. Know-how นั้นสำคัญมากกก!!!
การสร้าง Know how ทางธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างความแตกต่างได้ อาจเป็นความแตกต่างในแง่ของ Business Model หรือตัว Production Know How ผมอยากเห็นโครงการใหม่ๆ หรือKnow How ทางธุรกิจจากฝีมือคนไทย ไปโดดเด่นในเวทีโลกเยอะๆ แต่จะว่าไปทุกวันนี้โครงการดีๆก็มีนะครับ แต่อาจขาดเงินสนับสนุน ผมชอบลองเข้าไปดูโครงการน่าสนใจจากเว็บไซต์ระดมทุน (Crowd Sourcing) www.taejai.com ในนั้นมีโครงการน่าสนใจที่รอผู้สนับสนุนอยู่นะครับ อีกอย่างข้อสำคัญของ การมี Know-How ทางธุรกิจ คือคุณต้องมองย้อนกลับไปครับว่าธุรกิจที่คุณทำมามีการจัดการความรู้บ้างหรือเปล่า การทำ Knowledge Management ที่ดีจากการถอดบทเรียนจากธุรกิจที่ทำทุกวันๆกลั่นออกมาจนเป็น Know-How ทางธุรกิจ เพื่อไปปรับใช้ต่อกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค ถือเป็นคัมภีร์ชั้นยอดในการทำธุรกิจของคุณ แต่อย่าลืมศึกษาคนแต่ละประเทศด้วยนะครับ
โอกาส : ศึกษาคุ่แข่งของธุรกิจของคุณในประเทศอื่นๆ ใน AEC ง่ายๆ โดยค้นหาผ่านเว็บไซต์ หากอยากรู้ลึกๆ ว่าเค้าเป็นอย่างไร ก็ลองสั่งซื้อสินค้าของเค้าทางออนไลน์มาดูครับ จะได้รู้ว่าเค้าบริการเป็นอย่างไร
5. ช่องทางออนไลน์ สร้างรายได้เพียงปลายคลิก มันไม่ใช่เรื่องใหม่หรอกครับกับการขายของออนไลน์หรือ E-commerce
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากการเปิดตลาด AEC แล้ว ช่องทางออนไลน์ เป็นช่องทางหนึ่งที่มีความน่าสนใจ เพราะคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ อย่าว่าแต่ใน ASEAN เลยครับ เข้าถึงทั้งโลกยังได้เลย
“ข้อมูลล่าสุดจาก Frost &Sullivan Sullivan บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจและสำรวจข้อมูลทางการตลาดชื่อดังของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่ากิจการดังกล่าวเฉพาะ 6 ประเทศใหญ่ในภูมิภาคนี้อันได้แก่ ไทย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม จะมีมูลค่าการเติบโตอยู่ที่ปีละ 34,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) ไปถึงปี 2018 เพิ่มขึ้นจากปี 2013 ถึง 37.6 % และจากกรอบเวลาเดียวกันอินโดนีเซียจะขึ้นเป็นตลาดการซื้อขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่สุด ครองสัดส่วน 40% ในกลุ่มอาเซียน แซงหน้าสิงค์โปร์แชมป์ในปัจจุบัน ซึ่งเมื่อปี 2013 มีมูลค่าตลาด E-Commerce อยู่ที่ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 54,400 ล้านบาท)”
โอกาส : เริ่มต้นนำธุรกิจเข้าสู่โลกออนไลน์ได้แล้ว เปิดเว็บไซต์ สร้างตัวตน และเริ่มทำการตลาดทางออนไลน์
หากคุณเริ่มปรับตัวตาม 5 ข้อ ตามที่ผมเกริ่นมาด้านบน ผมมั่นใจว่า คุณจะสามารถเห็นโอกาสการค้าและโอกาสการเปิดของ AEC มากขึ้น และเห็นได้ว่าการเติบโตค่อนข้างสูง หากเรารีบคว้าโอกาสเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหล่า SMEs นะครับ เราต้องอาศัยความเร็วในการเข้าสู่ตลาดให้เป็นประโยชน์ อย่ามัวแต่จดจ้องนะครับ สิ่งสำคัญกว่าการมองหาโอกาสคือลงมือทำทันที เมื่อเห็นโอกาสนั้น ผมเห็นมาหลายๆคนแล้วครับ “โอโห ธุรกิจออนไลน์ดีจังนะ ดีดี น่าทำๆ” พอผมมาเจอเขากี่ทีๆ เขาก็ยังไม่ได้ทำครับ รู้นะ เห็นโอกาส แต่ชักช้า โอกาสทีเคยมีอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดา หรืออาจจะไม่ใช่โอกาสอีกต่อไป น่านน้ำสีน้ำเงินต้องคนที่ไวและลงมือทำจริงนะครับ ถึงจะคว้าไปครองได้ ผมเป็นกำลังใจให้ และสนับสนุนให้ทุกคนลงมือทำครับ Just Do It!!!!
ลองดู Infographic จากธนาคารกรุงศรี เราจะเห็นชัดเจนขึ้นนะครับ
ภาพ Infographic ข้อมูลจาก http://www.krungsri.com
Thank you.
ถูกใจถูกใจ