จากการบ้าน ปริญญาเอกที่ผมทำเรื่องถ่านไฟฉาย ที่เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกมาแล้ว ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้ามาฝากกันครับ อย่างที่เรารู้ดีว่าประชากรโลกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ประกอบกับเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้าที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่กลายปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิตของเราไปแล้วก็คือ “พลังงานไฟฟ้า” แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือที่มาของพลังงานไฟฟ้า ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อเพลิงหลักของพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน ว่ามาจากแหล่งไหนบ้าง และในระยะยาวจะมีผลกระทบอย่างไร


พลังงานไฟฟ้า : เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากเท่าไร ปริมาณการใช้ไฟฟ้ายิ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้อัตราการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงมีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยในปัจจุบัน เราใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าถึง 66% ทำให้มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากเกินไป จึงต้องมีการปรับสัดส่วนแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าให้มีความสมดุล

unnamed (1)

 

ก๊าซธรรมชาติ  : ราคาต้นทุนเฉลี่ย 3.32 บาท/หน่วย สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 66 %

ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นแหล่งพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนการใช้อยู่ถึง 66% ก๊าซธรรมชาติมีข้อดีคือ สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อย แต่ปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย ที่พิสูจน์พบแล้วว่ากำลังจะหมดลงในอีก 10 ปีข้างหน้า ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น

 

ถ่านหิน : ราคาต้นทุนเฉลี่ย 1.67 บาท/หน่วย สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 18 %

ถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงที่มีปริมาณสำรองทั่วโลกจำนวนมาก สามารถใช้ได้อีกเป็นร้อยปี ทำให้มีราคาไม่แพง เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

 

เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด : เป็นการพัฒนากระบวนการกำจัดหรือลดมลสารเพื่อนำถ่านหิน

มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถกำจัดมลสาร เช่น ฝุ่นละอองก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยกำจัดได้มากกว่าร้อยละ 90 และอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

พลังงานหมุนเวียน : กฟผ. สนับสนุนพลังงานหมุนเวียนตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของรัฐบาล ร้อยละ 25 ใน 10 ปี (พ.ศ. 2555-2564)

  • พลังงานหมุนเวียนมีข้อดี : คือ สะอาด รักษาสิ่งแวดล้อม ใช้ได้ไม่มีวันหมด แต่ก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักในการผลิตไฟฟ้า เพราะไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา
  • แสงอาทิตย์ : สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 1.5% ราคาต้นทุนเฉลี่ย 10.93 บาท/หน่วย
    ข้อจำกัด : ใช้พื้นที่มาก ราคาสูง ผลิตได้เฉพาะในเวลากลางวัน
  • ลม :  สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 0.5% ราคาต้นทุนเฉลี่ย 6.43 บาท/หน่วย
    ข้อจำกัด : ใช้ได้ในบางพื้นที่ที่มีกำลังลมแรง ราคาสูง ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตลอดเวลา
  • ชีวมวล :  สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 4% ราคาต้นทุนเฉลี่ย 3.23 บาท/หน่วย
    ข้อจำกัด : เป็นผลพลอยได้จากการเกษตร ทำให้มีปริมาณจำกัด และขึ้นอยู่กับฤดูกาล

 

น้ำ : ราคาต้นทุนเฉลี่ย 1.24 บาท/หน่วย สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 3 %

พลังน้ำเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นผลพลอยได้จากการที่เขื่อนปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร โดยนำกังหันผลิตไฟฟ้าไปติดตั้งเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า แต่สัดส่วนในการผลิตมีไม่มากเมื่อเทียบกับแหล่งพลังงานอื่น เพราะประเทศไทยมีเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่น้อย และไม่สามารถสร้างเขื่อนเพิ่มได้อีก ด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตามฤดูกาล เพราะน้ำใช้ประโยชน์ในการชลประทานเป็นหลัก ส่วนการผลิตไฟฟ้าเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น โดยมีคณะกรรมการที่มาจากหลายหน่วยงาน ร่วมกันพิจารณาว่าจะปล่อยน้ำมากหรือน้อยเพียงใด

 

ซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ : ราคาต้นทุนเฉลี่ย 1.58 บาท/หน่วย สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 6 %

เนื่องจากประเทศไทยไม่สามารถผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศ และยังไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ จึงมีความจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว และ มาเลเซีย เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศ แต่หากมีการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศมากเกินไป อาจเกิดความเสี่ยงในกรณีที่ประเทศเพื่อนบ้านเกิดวิกฤตด้านพลังงานไฟฟ้า และไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้ามาให้ประเทศไทยได้

 

น้ำมัน : ราคาต้นทุนเฉลี่ย 5.64 บาท/หน่วย สัดส่วนในการผลิตไฟฟ้า 1 %

สำหรับการผลิตไฟฟ้า เราใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล สำหรับใช้ในเตาเผาหรือต้มน้ำในหม้อไอน้ำ (บอยเลอร์)เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาแพงและผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จึงมีการใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

การสร้างความสมดุลของการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าในระยะยาว

Screen Shot 2014-12-11 at 12.33.10 PM

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะทำยังไงให้ทุกคนยังมีไฟฟ้าใช้ได้แบบยั่งยืน เราต้องเริ่มปรับสมดุลแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า โดยลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป หันมาเพิ่มแหล่งพลังงานที่มีปริมาณสำรองมากอย่างถ่านหิน และสามารถเป็นพลังงานหลักทดแทนก๊าซธรรมชาติได้ แล้วค่อยๆ ปรับสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน เช่นพลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นพลังงานเสริมให้ใช้มากขึ้น รวมถึงการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเพื่อเสริมความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าและ เพื่อให้สัดส่วนการใช้แหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า เป็นไปอย่างสมดุล

unnamed

แหล่งเชื้อเพลิงแต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือทุกวันนี้คุณใช้พลังงานไฟฟ้า อย่างคุ้มค่า กับทรัพยากรทางธรรมชาติดที่เสียไปหรือเปล่า คิดสักนิดก่อนใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่ออนาคตของลูกหลานเราทุกคนนะครับ ไฟฟ้าทุกหน่วยมีต้นทุน เราร่วมมือกันได้ แค่ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด ใช้อย่างพอเพียงเพื่อ”เพื่อนมนุษย์” ในรุ่นต่อๆไปนะครับ แหม่ จบได้เท่จริงๆเรา ฮ่าๆๆๆๆ

 

 

ข้อมูลที่มา : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พฤศจิกายน 2557
URL: http://www.balanceenergythai.com/