เจาะกระแส Social Commerce ทำยังไงให้ปัง!! (พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ห้ามพลาด)

     หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นยุคทองของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิคส์(สพธอ.) ได้เปิดเผยตัวเลขการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย ปี 2558 มีมูลค่ากว่า 2.11 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7 %

     ผลที่ตามมาจากกระแสสินค้าออนไลน์ที่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัด คือบรรดาเศรษฐีหน้าใหม่ วัยกระเตาะ ที่คว้าโอกาส และใช้ความถนัดในการใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำมาหากิน กันจนหาเงินได้เป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว นอกจากแม่ค้าออนไลน์ที่ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้ว ปรากฏการณ์ “Social Commerce” นี้ก็ทำให้ บรรดาบริษัท หรือร้านที่ปกติทำธุรกิจแบบออฟไลน์ก็ขยายมาอยู่ออนไลน์ได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Brand’s ซุปไก่สกัด ก็ปรับตัวมาขายสินค้าบนโลกออนไลน์ ได้ยอดขายจากบรรดาร้านค้าโชว์ห่วยที่ซื้อไปขายต่อ ถือเป็นการเพิ่มช่องทางการขายอีกทางหนึ่ง และในมุมมองของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เองก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำนวนมากที่ขายสินค้า นอกจากนี้ยังมีนโยบายรัฐบาลมาปกป้องผู้บริโภคที่ถูกเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ยิ่งเป็นตัวเพิ่มความมั่นใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี 

     สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจก็คือการสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มีตัวช่วยทำให้ขายสินค้าได้อย่างมืออาชีพ ลองมาศึกษาเครื่องไม้เครื่องมือออนไลน์กันดีกว่าครับ 

1. ระบบจัดการหลังร้าน ทำหน้าที่จัดการออเดอร์ คำนวและบริหารคลังสินค้า  เช่น Page365 , SalesSuki
2. ระบบบัญชีสำเร็จรูป ที่ให้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรือ SMEs เจ้าใหม่ใช้บริการในการจัดทำบัญชีได้ฟรีๆ เช่น FlowAccount , TRClound
3. ระบบ Logistics นอกเหนือจากไปรษณีย์ไทยแล้ว บริษัทขนส่งในไทยตอนนี้มีหลายเจ้ามากๆครับ ไม่ว่าจะเป็น Kerry , DHL , Niko’s Logistics เป็นต้น สามารถอำนวยความสะดวกให้เราโดยที่ไปรับของถึงคลังสินค้า และส่งให้ถึงหน้าบ้านลูกค้ากันเลยทีเดียว ทั้งสะดวก ทั้งรวดเร็วมากๆ
4. ระบบชำระเงินออนไลน์ เป็นข้อที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่รู้ไหมครับว่า เพียงเราให้ลูกค้าไปโอนเงิน ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้า “เปลี่ยนใจไม่ซื้อสินค้า” กว่า 50% หรือสินค้าบางอย่างก็มีข้อจำกัดในการโอนเงิน เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม ลูกค้าหลายรายต้องการผ่อน แต่อาจจะไม่สามารถทำได้ถ้าเป็นการซื้อขายแบบโอนเงินปกติ ก็ไม่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในลักษณะนี้ได้ 

แต่ตอนนี้ในบ้านเราสามารถรับชำระด้วยบัตรเครดิตและรับเงินผ่อนสินค้าผ่านออนไลน์ได้เแล้วนะครับ ด้วยบริการ http://www.Pay.sn จาก Pay Solutions

Pay.sn บริการรับชำระเงินผ่าน Social Media  แห่งแรกของประเทศไทย ทำให้คุณรับเงินจากลูกค้าของคุณผ่านทาง Facebook, Instagram, Line, WhatsApp, เว็บไซต์, E-mail ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆได้ทันที

จุดเด่นของ pay.sn

จ่ายเงินสะดวก : ง่ายๆ แค่วาง link url บน caption รูป หรือบน social media ของคุณ ก็สามารถชำระเงินได้ทันที

บริการจ่ายเงินด้วยบัตร และธนาคารหลากหลาย

ลูกค้าของคุณทั้งในไทยและต่างประเทศก็สามารถชำระเงินซื้อสินค้า บริการของคุณได้ทันทีผ่านช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่

• บัตรเครดิต (VISA, Master Card, JCB, AMEX, Union Pay) บัตร ATM (เดบิต) ของธนาคารต่างๆ ชำระได้ทันที
• จ่ายเงินผ่อน (ลูกค้าเลือกผ่อนได้ 3-10 เดือน แต่คุณรับเงินเต็ม) ผ่านบัตรเครดิต Kbank, กรุงศรี, เฟริต์ช้อยส์, เซนทรัลการ์ด, บัตรเครดิตเทสโก้โลตัส ฯลฯ
• เคาน์เตอร์รับชำระเงินทั่วประเทศ ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ 7-11 ทั่วประเทศ, ห้าง Big C, ห้างเทสโก้โลตัส, ไปรษณีย์ไทย (Pay at Post)
• PayPal (เพียงลูกค้ามี PayPal ก็สามารถชำระได้)
• บิตคอยน์ (BitCoin) เงินดิจิตอลรูปแบบใหม่

หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้ทันที เพียงแค่ส่งลิงค์ URL ของคุณเองผ่านระบบ Pay.sn ไปยังโซเชี่ยลมีเดียและช่องทางต่างๆ

รับเงินคืน : หลังจากลูกค้าชำระเงินแล้ว Pay.sn จะโอนเงินคืนเข้าบัญชีธนาคารของคุณ (หลังจากสมัครสมาชิก คุณสามารถระบุเลขบัญชีธนาคารที่คุณต้องการรับเงินคืน)

หน้ารายการการชำระเงินเข้ามาทำให้คุณทราบได้ทันทีเมื่อมีคนชำระเข้ามา

ที่สำคัญสมัครฟรี.! ที่ www.Pay.sn แล้วใช้รับเงินลูกค้าได้ทันที

สำหรับตัวอย่างร้านค้าที่ใช้ระบบชำระเงินออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จ ผมขอยก Success Case จากร้าน
JQ ปูม้านึ่งที่ใช้ระบบชำระเงินของ Pay.sn และสามารถเพิ่มยอดขาย  ซื้อปูนึ่งเกิน 3,000บาท ผ่อนได้  และสามารถขยายตลาดไปจับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศได้ด้วย เช่นลูกอยู่ต่างประเทศ อยากสั่งปูให้พ่อแม่กิน ก็รูดบัตร และปูนึ่งร้อนๆ ก็จะไปเสริฟ์ หน้าบ้านได้เลย

ขอบคุณรูปภาพจากเพจ เจคิว ปูม้านึ่ง Delivery

     ผู้ประกอบการไทย ที่กำลังจะเริ่มทำ หรือกำลังทำธุรกิจ ผ่าน Social Media สิ่งที่ผมอยากฝากไว้ข้อคิดทิ้งท้าย 5 ข้อก่อนจบนะครับ

1. การซื้อขายผ่าน Internet เป็นตลาดระดีบโลก มองให้ไกล คิดใหญ่ ขายออกไปต่างประเทศได้เลย!
2. ประชากรไทยที่ใช้อินเตอร์เน็ต เกินครึ่งประเทศแล้ว (กว่า 31 ล้านคน) อาเซียนประมาณ 200 ล้านคน และทั่วโลกอีกกว่า 2,200 ล้านคน
3. ใช้ Social Media ให้เก่ง ให้คล่อง ศึกษา และให้เวลาในการพัฒนาผลลัพธ์ทางโฆษณาให้ยอดขาย : โฆษณา ดีขึ้น 
4. เพิ่มโอกาสในการปิดการขาย และระบบการจัดการแบบมืออาชีพ ด้วยระบบชำระเงินออนไลน์ และระบบหลังร้าน 
5. ช่วยเหลือประเทศไทยได้ง่ายๆ เรื่มต้นจากอุดหนุนซื้อสินค้าจากคนไทย

สิ่งสำคัญที่สุดคือการลงมือทำทันทีนะครับ มีแต่ไอเดีย ไม่ลงมือทำผลลัพธ์ไม่เกิด ทำทันที เห็นผลแน่นอน!!!