ตัวเลขของสมาคมสื่อโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digital Advertising Association (Thailand) (DAAT) มีการอัปเดตว่าในแต่ละปีคนไทยมีการใช้เม็ดเงินลงสื่อโฆษณาในแต่ละปีไปเท่าไหร่
โดยในปี 65 มีการคาดการณ์ว่าในช่วงมกราคมถึงมีนาคมมีการใช้เม็ดเงินลงโฆษณาประมาณ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจะเห็นได้ชัดว่ามีหลาย ๆ ส่วนเพิ่มขึ้น
มาดูกันว่าสื่อตัวไหนขึ้น สื่อตัวไหนลง ซึ่งตรงนี้จะสะท้อนกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป และสะท้อนกับช่วงเวลาของโควิดที่คนเริ่มปรับตัวได้
ตอนนี้สื่อ TV ก็ยังครองเม็ดเงินโฆษณาประมาณ 15,000 ล้านบาทแต่ก็ตกลงประมาณ 4% อินเทอร์เน็ตมีมูลค่าประมาณ 6,700 ล้านบาทโตขึ้น 9% Outdoor คือป้ายพวกบิลบอร์ด ป้าย ๆ โตมากมีตัวเลขประมาณเกือบ 3,000 ล้านโตขึ้นโตขึ้น 19%
สังเกตได้ว่าเจ้าของสินค้าเริ่มมาใช้พวกบิลบอร์ดมากขึ้น และการซื้อป้ายบิลบอร์ดง่ายมากขึ้นเพราะเหลือผู้ให้บริการหลักใหญ่ ๆ ไม่กี่เจ้า และบางเจ้ามีสัมปทานเข้าไปถึงในเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลย ติดต่อซื้อเจ้าเดียวได้ทั้งบนทางด่วน เซเว่นอีเลฟเว่น ในตึกต่าง ๆ คือเดี๋ยวนี้ซื้อง่ายมาก และเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย
สื่ออีกอันหนึ่งคือ สื่อในโรงหนังเริ่มกลับมาแล้วประมาณ 1,700 ล้านบาทโตประมาณ 43% เข้าใจว่าที่โตขึ้นเยอะเพราะในปีก่อนแทบจะไม่มีเลย เพราะโรงหนังส่วนใหญ่ปิด ในฝั่ง วิทยุประมาณ 700 กว่าล้าน อาจจะลดลงประมาณ 3% ส่วนสิ่งพิมพ์ลดหนักมากประมาณ 670 ล้านบาทลดลง 14.43%
สื่อโฆษณาตัวสุดท้ายที่เก็บข้อมูลมาคือ In-Store Media โตขึ้น 15% ถือว่าโตมากเลยทีเดียว In-Store Media เราเริ่มเห็นมากขึ้นแล้วเวลาเข้าไปในร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต หรืออย่างเซเว่นอีเลฟเว่นก็เริ่มเห็นมากขึ้นแล้ว
หลาย ๆ แห่งเริ่มมีจอทีวีติดตั้งเอาไว้ หรือเข้าไปในห้าง ป้ายตามชั้นวางต่าง ๆ ป้ายทีวีต่าง ๆ กลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของบรรดาร้านค้าปลีกต่างๆ หลายคนบอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่ดีมากเพราะเป็นป้ายโฆษณาที่อยู่ตรงหน้าคนที่กำลังจะหยิบของ เป็นการ remind ทำให้คนระลึกถึงแบรนด์และกระตุ้นให้ซื้อสินค้าของแบรนด์นั้นได้เลย
เมื่อดูภาพรวมตัวเลขในปี 2021 อันดับหนึ่งคือ สื่อ TV มีมูลค่าทั้งปีประมาณ 63,000 ล้าน อันดับสองคือ อินเทอร์เน็ต มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 24,000 ล้านบาท อันดับสามคือสื่อ Outdoor อันดับสี่คือ สื่อในโรงหนัง มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท อันดับห้าคือวิทยุ อยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท
ส่วนสิ่งพิมพ์ อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่ถ้าย้อนกลับไป 2017 ตัวเลขของสิ่งพิมพ์อยู่ที่เกือบ ๆ 10,000 ล้านบาท ตัวเลขหายไปเยอะมาก ในขณะเดียวกัน In-Store Media อยู่ที่ประมาณ 600 กว่าล้านบาท ต้องบอกว่าจริง ๆ ก่อนโควิดสื่อพวกร้านนี้ดีมากกำลังเติบโตมากเลยทีเดียว
ฉะนั้น ในหนึ่งปีโดยเฉพาะ ปี 2021 ประเทศไทยมีมูลค่าการใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณาประมาณเกือบ ๆ 100,000 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว
เมื่อมาดูในแต่ละอุตสาหกรรมจะพบว่า ตัวเลขที่มีการเติบโตมากที่สุดประมาณ 59% คือกลุ่ม Entertainment แต่มีมูลค่าไม่มากนัก ส่วนที่มีการใช้เม็ดเงินมากสุดคือกลุ่มอาหารประมาณเกือบ ๆ 4,000 กว่าล้านบาทแต่เป็นการลดลงประมาณ 7%
กลุ่มพวก cosmetics หรือ personal care มีมูลค่าประมาณ 3,700 ล้านบาท กลุ่ม Retail shop พวก Food outlet ประมาณ 2,800 ล้านบาท อีกอันคือกลุ่มรถยนต์ ประมาณ 1,500 ล้านบาทตกลงประมาณ 18% กลุ่มพวก media marketing โตขึ้น 23% ประมาณ 1,400 ล้านบาท กลุ่ม Pharmaceutical ก็ประมาณ 1,400 ล้านบาทเช่นกัน แต่จุดที่น่าสนใจของภาครัฐคือมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาประมาณ 855 ล้านบาท โตขึ้นมา 43%
ฉะนั้น ในเชิงของการใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณาตามประเภทอุตสาหกรรมจะสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมไหนที่มีการเติบโตมากก็จะมีเม็ดเงินในการโฆษณามากตามไปด้วย เช่น อย่างที่เห็น ๆ กันว่าโลกคริปโตกำลังเบ่งบานมากเลย เม็ดเงินต่าง ๆ ก็จะถูกเทเข้าไปในโลกอุตสาหกรรมโฆษณามากขึ้น
ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งเม็ดเงินถูกเทเข้าไปในออนไลน์เยอะมากจริง ๆ และเริ่มสังเกตว่าเราเริ่มมีเศรษฐีหน้าใหม่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ บางคนอายุไม่ถึง 30 ปีก็ได้จับเงินเป็นล้าน ๆ แล้ว จากการทำสินค้าของตัวเองขึ้นมา ยิงแอดโฆษณาเอง ขายของ เป็นยูทูปเบอร์ ฯลฯ กลุ่มเหล่านี้จะเห็นว่าเป็นกลุ่มที่เติบโตมากขึ้น เริ่มมีเศรษฐีใหม่มากขึ้นด้วยเหมือนกัน
ตอนนี้มี 3 แบรนด์ที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา อันดับ 1 คือ เนสท์เล่ ประมาณ 800 กว่าล้านบาท อันดับ 2 คือ ยูนิลีเวอร์ เป็นที่น่าแปลกใจเพราะเขาใช้เงินลดลง 44% เมื่อเทียบกับปีก่อน เกือบครึ่งเลยทีเดียว อันดับ 3 คือ P&G ใช้ประมาณ 650 ล้านบาทเป็นการใช้เม็ดเงินเพิ่มขึ้น
อันดับ 4 คือ แมสมาร์เกตติ้ง อันดับ 5 คือ โมโน ช้อปปิ้ง อันดับ 6 คือ โตโยต้า อันดับ 7 คือ โคคา-โคล่า อันดับ 8 คือ อีซูซุ อันดับ 9 คือ ลาซาด้า เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าธุรกิจออนไลน์ใช้เงินซื้อโฆษณาต่าง ๆ แล้วติดอันดับได้เพราะปกติพวกนี้จะไม่ใช้เยอะเท่าไหร่ และอันดับสุดท้ายคือ โอ ช้อปปิ้ง ของกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
นั่นคือ ตัวเลขของการใช้เม็ดเงินในสื่อโฆษณาซึ่งสะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างเลยทีเดียว ให้เห็นว่าตอนนี้อุตสาหกรรมไหนกำลังเติบโต หรือธุรกิจไหนกำลังหดตัวลงครับ