ผมได้จัดงานที่ชื่อว่า BokTeer-BeerTalk 2022 #2 : “TikTok Commerce เพิ่มยอดขายให้กระจุยด้วยการค้าผ่านวิดีโอสั้น” เชิญวิทยากรมาพูดเรื่องการนำ TikTok มาขายของอย่างเดียวเลย มีคนมาร่วมงานเยอะมาก

วิทยากรที่เชิญมาสองท่าน ท่านหนึ่งชื่อพี่ม้งทำเกี่ยวกับเรื่องสกินแคร์อยู่ในออนไลน์ ตอนนี้ทำอยู่บน TikTok อย่างเดียวเลย มีอยู่ประมาณ 40 แอคเคานท์ยอดขายปีหนึ่งประมาณ 100 กว่าล้าน เมื่อก่อนก็ทำในเฟซบุ๊กแต่โดนบล็อกจึงหันมาบุก TikTok อย่างเดียวเลย พี่ม้งทำมาตั้งแต่ TikTok เริ่มเข้ามาในเมืองไทยใหม่ ๆ นี่เป็นข้อดีของการเริ่มต้นแรก ๆ เลยก็คือคนยังไม่ค่อยมาทำกันเยอะเท่าไหร่ 

อีกท่านคือคุณเชียงทำเกี่ยวกับเรื่องอาหารเสริม ยอดขายปีละประมาณ 70 กว่าล้านบาท ทั้งสองท่านนี้แตกต่างกันคือคุณเชียงจะใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์เอง ส่วนพี่ม้งจะไม่ใช้ตัวเองเลยแต่ใช้ทีมงานเป็นคนออกไปเล่าเรื่องราวเป็นคลิปสั้น ๆ แต่ทั้งสองคนนี้เหมือนกันคือ ขายของ

TikTok ที่ทำเป็น Commerce จะต่างกับ TikTok อีกแบบหนึ่งที่เป็นการสร้างตัวตน ซึ่งอย่างหลังรายได้ไม่ได้เกิดจากการขายของทางตรง แต่มีสปอนเซอร์มาให้พูดถึงสินค้าจึงจะได้ค่าจ้าง สายนี้ต้องทำคลิปให้มีจำนวนผู้ติดตามมากหน่อย ต้องใช้เวลาและมีเทคนิคมาก กว่าจะสร้างตัวตนขึ้นมาได้

สายที่น่าสนใจคือ ขายของ หรือสาย commerce สายนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนตามเยอะ แต่ใช้การทำโฆษณาโดยพูดเกี่ยวกับสินค้าตรง ๆ เอาสินค้ามารีวิวมาพูดถึงเลย การทำ TikTok  ของสาย commerce มีจุดสำคัญอยู่ 2 แบบคือ ทำแบบออแกนิก คือโพสต์ออกไปถ้ามันดีหรือปังมันอาจจะไหลไป กับอีกแบบคือทำแบบธรรมดาไม่ปังแต่ใช้เงินมาบูสต์โฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มคนมาก ๆ 

คนมักไม่รู้ว่า TikTok ทำ commerce ได้ดีมาก จากตัวเลขที่ทั้งสองท่านเล่าให้ฟังทุกคนในงานต่างก็ประหลาดใจว่า TikTok ทำรายได้ให้มากขนาดนั้นเลยหรือ ผมเองถามว่าทำได้อย่างไร คุณเชียงเปิดคลิปที่ทำแบบ AB Test โฆษณาครีม 3 แบบ คือ แบบไม่เห็นหน้าเลย แบบมีผู้หญิงมาพูด และแบบมีผู้ชายคือตัวเขาเองออกมาพูด

เมื่อยิงโฆษณาออกไปแล้ววัดผลทั้งสามตัวปรากฏว่าตัวที่เวิร์คที่สุด มีคนสั่งซื้อมากที่สุดโดยที่ไม่ได้บูสต์หรือจ่ายเงินเลยคือเป็นตัวเขาเอง เป็นคลิปแบบถ่ายง่าย ๆ แต่พูดคุณสมบัติต่าง ๆ แล้วใส่เบอร์โทรลงไป โฆษณาความยาวประมาณ 15-20 วินาที เป็นโฆษณาที่ธรรมดามาก ๆ แต่ขายได้จริง

หลายคนบอกว่าเมื่อมาทำโฆษณาใน TikTok ให้ลืมกฎเดิม ๆ ของการทำการตลาดแบบอื่นไปเลย ที่เคยทำโฆษณาออนไลน์แบบวิดีโอดี ๆ โปรดักชันดี ๆ มีตัวเปิดตัวปิด ภาพต้องสวย ตัดคม ๆ กระชับ ฯลฯ ให้ลืมไปเลย เพราะเมื่อเป็น TikTok ภาพไม่ต้องสวยก็ได้ ตัดต่อง่าย ๆ สื่อสารตรง ๆ ขายความดิบความ real มากกว่า

ตอนนี้คนยังไม่ค่อยรู้ถึงการนำ TikTok ไปขายอีคอมเมิร์ซจริงจัง เพราะการขายในยุคแรก ๆ เนื่องจาก TikTok ไม่ได้ถูกออกแบบเอาไว้ขายของ แบบที่หนึ่ง เวลาจะขายคนก็ต้องพูดถึงช่องทางติดต่อ เช่น แอดไลน์ ตรงโปรไฟล์จะมีลิงค์สำหรับตามไปซื้อเหมือนในอินสตาแกรม แบบที่สองคือใส่ข้อมูลเอาไว้ในคอมเม้นต์ แบบที่สามคือส่งคนให้ไปซื้อที่เซลส์เพจหรือแลนดิ้งเพจ 

แต่ในยุคหลัง TikTok เริ่มกระโดดมาทำอีคอมเมิร์ซโดยตรงคือเปิดเป็น TikTok shop เหมือนแบบ shopee หรือ lazada คือเปิดเป็นร้านค้า ใส่สินค้าเข้าไป มีระบบชำระเงิน ระบบส่งสินค้า ซึ่ง TikTok เดินเกมแบบเดียวกับ shopee หรือ lazada เลย

ตอนนี้คนขายของใน TikTok ขายดีมาก เพราะเขามีกลยุทธ์คือ หนึ่ง หากคนมาซื้อของใน TikTok จะได้รับคูปอง 150 บาท สองคือ ส่งสินค้าให้ฟรี มีการเอาเงินมา subsidized มาทำให้สินค้าถูกลง ทำให้คนอยากมาสั่งซื้อสินค้าใน TikTok มากขึ้น

TikTok เองก็ใช้หลัก 3 C เหมือนที่เฟซบุ๊กทำ คือมีคนทำ content เยอะๆ แล้วเกิด community ขึ้นและจึงมี commerce TikTok เดินมาแบบนี้เช่นเดียวกันคือทำแพลตฟอร์มขึ้นมาให้คนเอาข้อมูลเข้ามาใส่ เอาวิดีโอสั้นเข้ามาใส่ กลายเป็นมี content มี community เมื่อมีคนใช้เยอะก็เริ่มมาทำ commerce 

แต่เนื่องจาก TikTok นั้นมาจากจีนจึงรู้ว่าพฤติกรรมคนเอเชียนั้นเป็นอย่างไร และเห็นว่า shopee และ lazada ทำอย่างไรเขาก็เริ่มเดินเกมเดียวกันคือ subsidized ใช้โปรโมชันให้คนเข้ามาซื้อสินค้าใน TikTok Shop มากขึ้นนั่นเอง

สิ่งที่เห็นคือคนกรุงเทพฯ ส่วนกลางประมาณ 50% จะใช้ TikTok แต่จุดที่น่าสนใจคืออีก 50% เป็นคนต่างจังหวัดหมดเลย และสินค้าที่ขายได้มีตั้งแต่ราคาไม่แพงไปจนถึงราคาแพง จากที่พูดคุยกันทราบว่านอกจากคนที่ขายใน TikTok แล้ว ตอนนี้เริ่มมีคนจีนเข้ามาขายเองเลย ถึงเขาจะพูดไทยไม่ได้แต่เขาใช้วิธีการโดยหาอินฟลูเอนเซอร์คนไทยให้มาพูดขายแทนและเริ่มเรียนรู้ไปด้วย 

บอกได้เลยว่าทักษะการขายของคนจีนนั้นแอดวานซ์ไปกว่าคนไทยมาก เขาอยู่กับ TikTok มาหลายปีในขณะที่เราเพิ่งเริ่ม จึงกลายเป็นว่าจีนที่เข้ามาทีหลังแต่มีความได้เปรียบมาก

จุดที่น่าสนใจคือ TikTok Shop ที่เพิ่งเปิดไม่นานนั้นมันคืออีคอมเมิร์ซตัวเต็ม ๆ และมีความสามารถในการขายของได้ดีมากรวมถึงการลงโฆษณา เท่าที่ผมดูสิ่งที่คนทำ TikTok ขายของทำกันคือยิงแอด แพลตฟอร์มในการยิงแอดของเขาก็คือให้เปิดแอคเคานท์ มีอยู่ 2 แบบคือแบบผูกบัตรเครดิตเอาไว้เพื่อจ่ายค่าโฆษณา กับแบบเติมเงินเข้าไปในแอคเคานท์แล้วตัดเงินค่าโฆษณาไปเรื่อย ๆ 

แพลตฟอร์มการลงโฆษณาของ TikTok ก็เหมือน  ๆ กูเกิลหรือเฟซบุ๊ก เลือกกลุ่มทาร์เก็ตได้ สร้างแคมเปญได้ แต่สิ่งหนึ่งที่วิทยากรบอกไว้คือเวลาเลือกทาร์เก็ตเราไม่จำเป็นต้องไปเลือกว่าอายุเท่าไหร่ เพศอะไร ฯลฯ เพราะ TikTok จะหาให้เอง จะทาร์เก็ตให้เอง

การที่ไม่ได้ทาร์เก็ตลูกค้าแบบชัด ๆ แต่อาศัยอัลกอริทึ่มหรือ AI ของ TikTok ทำให้การยิงโฆษณามีหลายแบบคือ Reach ให้เข้าถึง ให้เห็น ให้อยากซื้อ ให้เข้าชอปปิ้งคาร์ด มีหลายแบบ การยิงโฆษณาใน TikTok นั้นก็ง่ายและคลิปที่ใช้ก็ทำได้ง่ายมาก ทำแบบทีเดียวและมีเครื่องมือให้ สามารถยิงโฆษณาได้เลย 

หากต้องการเริ่มต้นทำ TikTok Commerce หรือใช้ TikTok ขายของ อย่างแรกคือต้องมีคลิปโฆษณาสั้น ๆ ง่าย ๆ ใน TikTok ที่ทำไว้แล้วประมาณ 30 คลิป เพราะเมื่อมีคนมาดูแล้วชอบ และกดเข้าไปดูในแอคเคานท์โปรไฟล์ของเราต้องมีคลิปมากพอ  หากคุณสามารถทำ 2 สายได้พร้อมกันคือ สายสร้างตัวตนให้คนรู้จักติดตาม และไปทำคอมเมิร์ซด้วยจะยิ่งดี ยอดขายจะดีมาก 

แต่สินค้าบางอย่างก็ไม่สามารถขายใน TikTok ได้ เช่น สินค้าที่เกี่ยวกับเด็ก อาวุธ (แม้กระทั่งจอบหรือเสียบก็อาจเข้าข่ายอาวุธได้) ฯลฯ สินค้าเหล่านี้จะยิงแอดไม่ได้เลย หรือภาพเกี่ยวกับเด็กเล็ก ๆ ก็ไม่ได้เช่นกัน การลงโฆษณาใน TikTok ก็จะมีกรอบอยู่บ้างคล้าย ๆ กับเฟซบุ๊ก

ตอนนี้กระแส TikTok เริ่มจุดติดแล้ว ไม่ใช่แต่เพียง end user เท่านั้น แต่ B2B เองก็เริ่มเข้ามาแล้ว พ่อค้าแม่ค้าเริ่มย้ายเข้ามาใน TikTok  ตอนนี้ TikTok ไม่ได้ชนแค่เฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมหรือมแ้แต่ยูทูปเท่านั้น ลาซาด้าหรือชอปปี้เองก็น่ากลัวเพราะคอมเมิร์ซของ TikTok ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

วันนี้คุณอาจจะต้องลองเล่น TikTok แล้ว นี่อาจจะเป็น The Next Big Thing ของวันนี้ สิ่งสำคัญคือ ถ้าอยากขายของใน TikTok ก็ต้องลงมือทำเลยครับ