<![CDATA[

ทูโฮมดอทคอม (www.tohome.com) และไทยเซคกันแฮนด์ดอทคอม (www.thaisecondhand.com) ถือเป็นสองเวบอีคอมเมิร์ซที่เติบโตมาคู่กับประวัติศาสตร์ของดอทคอมเมืองไทย และดูเหมือนจะเป็นสองเวบหลักที่สามารถสร้างรายได้ต่อปีเฉลี่ยหลัก 10 ล้านบาทขึ้นไป หรืออาจจะมากกว่านั้น…

เคยมีคำถามไปยังผู้บริหารของทูโฮมดอทคอมว่า หากจะเรียก "ทูโฮมดอทคอม" ว่าเป็นอีเบย์เมืองไทย คิดว่าคำพูดนี้ ยกยอเกินไปหรือไม่? "ธีรวุธ วงษ์วิบูลย์สิน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน สตาร์ เทรดดิ้ง ผู้ให้บริการเวบไซต์ทูโฮ ตอบคำถามนี้พร้อมรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะบอกว่า "คงยังไม่ถึงขั้นนั้น"

การ Re-launch เวบไซต์ใหม่ ดูเหมือนจะเป็นทิศทางการทำธุรกิจที่น่าสนใจของ "ทูโฮมดอทคอม" ในปีนี้ หลังจากที่ได้จับมือกับ "ร้านบู๊ทส์" (Boot) ผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงาม สัญชาติอังกฤษ ไปเมื่อปีที่แล้ว

การรีลอนช์เวบใหม่ จะทำให้ทูโฮมดอทคอมกลายเป็นร้านค้าบนเน็ต ที่มีสีสันมากขึ้น เป็นการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย จัดแบ่งหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจน ตลอดจนสามารถสต็อกสินค้าที่มีขายหน้าเวบ 100% เพื่อให้สามารถจัดส่งได้อย่างรวดเร็ว

ธีรวุธเล่าว่า ทูโฮมดอทคอมปี 2550 นี้ ยังมีแผนเปิดตัวหมวดสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น นำร่องแผนการตลาดด้วยการเพิ่มไลน์สินค้าในหมวดแฟชั่น ที่กำลังได้รับความนิยมในการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต

รวมทั้งหมวดอาหาร ที่เป็นหมวดค่อนข้างใหม่ในการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตเมืองไทย แต่เห็นว่าน่าจะสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ที่ดำเนินชีวิตในแบบเร่งรีบมากขึ้น ต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการซื้อสินค้า

"ปีนี้ ทูโฮมวางงบการตลาดไว้ที่ 5-10% ของยอดขาย และตั้งเป้าการเติบโตด้านยอดขายปีนี้ไว้ที่ 30-40% จากปี 2549 ที่ทำรายได้อยู่ประมาณ 90 ล้านบาท” ธีรวุธว่า

เส้นทางธุรกิจในรูปแบบของ "อี-คอมเมิร์ซ" ไทย และต่างประเทศปีนี้ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เพราะกูรูในวงการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศไทยกำลังมีทิศทางอัตราการเติบโตในระดับที่สูงขึ้น

ว่ากันว่า เมื่อปีที่ผ่านมาตัวเลขผู้ประกอบการด้านอีคอมเมิร์ซไทย มีจำนวนรวมกว่า 3,000 ราย และมีจำนวนเวบไซต์เปิดให้บริการถึงกว่า 4,000 เวบไซต์ การเติบโตแบบนี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในประเทศ เพราะจะทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ที่จะเร่งให้ตลาดมีการเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"จากทิศทางการเติบโตของผู้ให้บริการซื้อขายสินค้าและบริการค้าผ่านระบบออนไล น์ ปัจจัยสนับสนุนด้านอื่นทั้งจำนวนคนใช้เน็ตที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวบริการบัตรเครดิต หรืออี-แบงกิ้ง ก็ถือว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นเหตุผลที่ผมเชื่อว่าอีคอมเมิร์ซไทยปีนี้ยังคงเติบโตได้อีก" ธีรวุธว่า

ที่ผ่านมา ทูโฮมดอทคอมมียอดขายเติบโตกว่า 25% มีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 70,000 ราย ในปี 2548 เป็น 90,000 ราย ในปี 2549

ขณะที่ "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" ผู้บริหารเวบไซต์ thaisecondhand.com และ tarad.com อุปนายกสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย บอกว่า ปีที่ผ่านมาอีคอมเมิร์ซไทยมีตัวเลขของการเติบโต ถึงจะไม่โตมาก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี

"ทิศทางที่เห็นในปีนี้ สินค้าประเภทแฟชั่น เป็นเทรนด์สินค้าที่ขายดีบนเวบ รวมไปถึงพวกเครื่องประดับต่างๆ เพราะปีที่แล้ว คนเข้ามาซื้อของแบบนี้บนเน็ตเพิ่มขึ้น ถัดมาจะเป็นพวกธุรกิจท่องเที่ยวและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ กลายเป็นสินค้าบนเน็ตที่ในปีนี้ต้องจับตามอง" ภาวุธว่า

ข้อมูลจาก http://www.bangkokbizweek.com/20070302/ibiz/index.php?news=column_22950014.html

]]>