สำหรับนักการตลาดออนไลน์ การเขียนข้อความทาง Twitter แล้วมีคนเป็นจำนวนนมาก "ส่งต่อ" หรือ "RT = ReTweet" กันหลายๆ คน นั้นหมายถึง "ข้อความทางการตลาด" ของคุณ ได้ถูกส่งต่อ สู่สายตาคนหมู่มากได้ง่ายๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลด้าน การเพิ่มยอดขาย (Sale) การเพิ่มรับรู้ Brand (Awareness) หรือการเข้าไปมีส่วนปฏิสัมพันธ์กับ Brand (Engagement)  แต่คำถามง่ายๆ คือ "ทำยังไง คนจะถึง RT ข้อความของเรา ออกไปเป็นจำนวนมากๆ ได้" อ้าววันนี้เรามาดูเทคนิคการเขียนข้อความที่ทำให้คน RT ข้อความของคุณเยอะ และเทคนิคการวัดผลว่าคน RT ข้อความของคุณเยอะแค่ไหน

ก่อนอื่น Retweet หรือ RT คืออะไร? แล้ว RT ยังไง?
(ใครไม่รู้จัก Twitter อ่านตรงนี้ก่อนนะครับ Twitter คืออะไร? สำหรับคนรู้แล้วข้ามไปได้เลยครับ)
Retweet (ผมขอเรียกว่า RT นะครับ) คือ "การนำข้อความคนอื่นที่ Tweet มาส่งต่อซ้ำออกไป โดยมีคำว่า RT นำหน้า" เช่น ผม RT ข้อความของ @thanr ดังภาพด้านล่าง ซึ่ง วิธีการ Retweet ทำก็ง่ายๆ ครับมีหลายวิธี

  1. วิธีแบบทำเอง (Manual) ก็ Copy ข้อความเข้ามา แล้วมาใส่คำว่า RT ด้านหน้าแล้วตามด้วย "@" ต่อหน้าเค้าแล้วก็ส่งต่อ
     
  2. วิธีอัตโนมัติ แบบคลิกเดียวได้เลย ซึ่งวิธีนี้ต้องขึ้นอยู่ application ที่คุณใช้ในการ Tweet ด้วยครับว่าคุณใช้ application อะไร? ซึ่งส่วนใหญ่พอคลิกที่ข้อความ มันจะมี เมนูขึ้นมาว่า "Retweet" กดได้เลยครับ มันจะมีข้อความที่คุณต้องการไปแสดงอยู่ในช่องส่ง tweet พร้อมมีเครื่องหมาย RT ให้พร้อม ครับ ยกตัวอย่างเช่น ผมใช้โปรแกรม Twitterfox เป็น addon ใน Browser Firefox ก็สามารถ Retweet ได้เลยครับ โดยคลิกขวาที่ข้อความ แล้วก็ "Retweet ได้เลย

เทคนิคการเขียนให้คน Retweet คุณเยอะๆ
ผมลองทำ Survey ผ่าน Twitter ไปครับว่า "ขอความเห็นหน่อยครับ.! คิดว่าข้อความแบบไหนที่คนจะ RT มากที่สุด?" ปรากฏว่า ตอบกันมาเป็นสิบๆ คนเลยครับ

  1. ข้อความต้องเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อคนทั่วไป
  2. ข้อมูลข่าวสารปัจจุบัน น่าตื่นเต้น (ที่ยังไม่มีคน Tweet) (จากคุณ @bang_xavi)
  3. ไอเดียใหม่ๆ ที่บรรเจิด
  4. ข้อความอันเป็นลามก (ไม่มาก) ต้องใช้ Tag #หื่น เข้าช่วย (อันนี้ @mormman เป็นหัวหน้าใหญ่อยู่) จากคุณ @mormman, @sugree, @kingzly,
  5. ข้อความตลก (จากคุณ @puusechuan)
  6. ข้อความที่ "โดนใจ" เป็นปรัชญา เจ๋งๆ (จากคุณ @tanicha, @kohsiji, )
  7. ถามคำถาม ขอความเห็น อันนี้จากประสบการณ์ตรงครับ ผมตั้งชื่อลูกตัวเองจาก Twitter ครับโดยขอให้คนโหวตมาครับ ผลปรากฏ ส่งชื่อมากันเกือบร้อยชื่อ จากคนหลายสิบคน
  8. ข้อความที่มีผลกระทบต่อคนวงกว้าง (จากคุณ @godzeelus)
  9. ข้อความที่เสียดสีชาวบ้าน (จากคุณ @iAmSamit)
  10. แจกของรางวัล (จากคุณ @prangTH)
  11. ข้อความอันเป็นกุศล เช่น บริจาคเลือด (จากคุณ @bonach)
  12. ข้อความลูกโซ่ เช่น "ถ้าไม่ Retweet #twitter จะเก็บเงินผู้ใช้คนละ $1 ดังนั้นให้ retweet ต่อกันวันละสิบรอบ :P" โหปรากฏว่าหลังจากส่งอันนี้ไป คน RT กันบานเลยครับ
     

ปัจจัยอื่นๆ ที่จะทำให้การ RT ได้ผลมากๆ ก็มีหลายปัจจัยที่น่าสนใจได้แก่

  • "เวลา" ที่คุณส่งข้อความ ต้องเป็นเวลาที่คนใช้เยอะๆ หรือตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณใช้ (ดู report ด้านล่างครับ)
  • "คนที่ส่งข้อความ" หากมีความน่าเชื่อถือ หรือมีคนตาม (Follow) เยอะอยู่แล้ว ก็จะมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น เช่น ดารา หรือคนดัง ก็จะช่วยทำให้ข้อความถูก RT ต่อได้ง่าย หรือ หากคุณสามารถทำให้ คนดัง หรือ ดารา สามารถ RT ข้อความคุณได้แล้วละก็ ข้อความของคุณ ก็จะสามารถกระจายไปในวงกว้างได้เช่นกัน ดังนั้น ตีซี้ ดาราหรือคนดังเข้าไว้
  • "คำพูด หรือข้อความ" ที่จะส่งออกไปอาจจะต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องการสื่อสารด้วยเช่น หากต้องการกระจายไปในกลุ่มวัยรุ่น ก็ต้อง ว๊อทแซ็ป กันหนอ่ย แต่ถ้าเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ คำทางการ ดูน่าเชื่อถือก็ดูจะเป็นสิ่งที่ต้องทำและปฏิบัติครับ เพื่อการกระจายตัวของ RT ได้กว้างมากขึ้น

ข้อความอะไรที่คนไม่ค่อย Retweet กันต่อ
ผมได้ทำ Survey ผ่าน Twitter อีกครับว่า "ข้อความแบบไหน ที่คุณไม่อยาก RT เอาซะเลย" ผลลัพย์เป็นอย่างข้อมูลด้านล่างครับ

  1. ข้อความกิจวัตรส่วนตัว เพ้อเจ้ออยู่คนเดียว เช่น "กำลังจะอาบน้ำ" "ลงไปกินข้าวละ"  "จะไปสยาม" "ปวดอึ" เพราะคนที่จะ RT ไม่รู้จะ RT ไปทำไม? (จากคุณ @iAmSamit)
  2. ข้อความเฉพาะทาง ที่มีศัพท์แสงเทคนิค ยากๆ ชาวบ้านไม่เข้าใจ
  3. ข้อความเกี่ยวกับ การเมือง รัฐบาล (จากคุณ @AkeZaa, @TumKunG)
  4. นินทาชาวบ้าน ด่าคนอื่น เชิง Negative (จากคุณ @monozone)
  5. หยาบคายแบบสวยหรู (จากคุณ @sugree)
  6. ข้อความที่ คุยกันอยู่ได้สองคน ทำไมไม่ไปใช้ MSN หรือ IM คุยกันซะเล้ยวะ?

มาดูพฤติกรรมของคน RT ว่าเค้ามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง?
    จากการวิเคราะห์รูปแบบการ RT ของเว็บ danzarrella.com พบว่า มีข้อมูลหลาย ๆ อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว เกี่ยวกับ RT ได้แก่

  • 20 คำที่คนนิยม RT มากที่สุด
  • ช่วงเวลาที่คน RT มากที่สุดใน 1 วัน

เราจะติดตาม และ Track ว่าคน RT เราเท่าไร?

    วิธีที่เราจะสามารถตรวจสอบการ RT มีหลายวิธีครับ ลองดูจากเว็บไซต์ที่ผมแนะนำด้านล่าง ดูนะครับว่าเป็นเว็บที่จะช่วยทำให้คุณสามารถ เช็กเกี่ยวกับการ RT ของคุณได้ไม่ยากเลย ซึ่งมันจำเป็นมากครับ สำหรับนักการตลาด เพราะยิ่งมี RT หรือการส่งต่อไปเยอะแค่ไหน นั้นหมายถึง จำนวนคนดู คนเห็น (Impression and Eye balls) จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน นั้นหมายถึงความประสบความสำเร็จของการส่งข้อความแต่ละครั้งครับ

Web Site Service
http://repeets.com
http://tweetmeme.com
http://dailyrt.com
 เว็บที่ใช้เช็กว่ามีคน retweet เท่าไรแล้วร่วมทั่วโลก คล้ายๆ กับ digg.com  คือจัดอันดับคน retweet เยอะสุด และสามารถเช็ก RT ของคุณได้ว่า คุณมีการ RT เท่าไรแล้ว (ของ repeets ทำได้)
http://www.retweetradar.com  ดูแนวโน้มของ "ใคร"ถูก RT มาสุด และ "ลิงค์" ไหนถูก RT มากสุดเช่นกัน (ทั่วโลก)
 http://tweetreach.com/  เช็กจำนวนคนที่เห็นข้อความ tweet ของเราว่ากี่คน?

สำหรับคนที่สนใจเครื่องมือ Track หรือติดตามผลของการ Twitter สามารถอ่านได้ที่นี้ครับ

ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิค และข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องการ "พูดซ้ำ" หรือ RT ว่ามีรูปแบบเป็นอย่างไร ซึ่งหากนักการตลาดออนไลน์ มีความเข้าใจ แล้ว คุณก็จะสามารถ การสื่อสารทางการตลาดออนไลน์ ที่มีศักยภาพมากๆ ผ่าน Twitter ได้ดีอย่างมากครับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้าง Network หรือคนที่มา Follow เอาไว้ให้ได้มากที่สุด ก็จะทำให้การตลาดผ่าน Twitter ดูจะได้ผลไม่น้อยเลยทีเดียวครับ เอ้าลองดูครับ ว่าข้อความของคุณ จะมีคน RT มากน้อยแค่ไหนครับ