วันนี้ผู้ประกอบการไทยหลายๆ คนนั่งกุมขมับคิดหาทางออกให้กับตัวเองว่าจะทำอย่างไรดีกับกองทัพสินค้าจีนที่บุกเข้ามาทางออนไลน์ ที่ไม่ใช่บุกมาเฉพาะแค่ในบ้านเราเท่านั้นแต่เป็นทั้งอาเซียน ตอนนี้จะอยู่รอดหรือไม่ก็อยู่ที่ว่าวันนี้เริ่มลงมือแก้ปัญหากันหรือยัง
ผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตช้ากว่านี้ไม่ได้
ทั้งผู้ที่เป็นผู้ผลิตเองและผู้ที่นำเข้าสินค้าจากจีนต้องรีบตรวจสอบเลยว่าสินค้าของคุณนั้นมีขายในออนไลน์หรือเป็นกลุ่มเดียวกับที่ประเทศจีนเขาผลิตหรือไม่? ลองเปรียบเทียบราคาดูว่าของคุณได้เปรียบหรือเปล่า คำตอบส่วนใหญ่คือ ไม่ เพราะของจีนน่ะโคตรถูก วันนี้สินค้าที่เหมือนๆ กับของที่คุณผลิตหรือนำเข้ามานั้นกำลังจะเหาะเข้ามาบ้านเราโดยตรงผ่านทางออนไลน์ ลูกค้าก็มักจะหนีไปซื้อของถูกมากกว่า แล้วจะทำกันอย่างไรดี นี่เป็นคำแนะนำจากผมครับ
คำแนะนำ 6 ข้อสู้กองทัพสินค้าจีนออนไลน์
1. ถึงเวลาสร้างแบรนด์ (Brand) ให้โลกรู้จัก
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างแรกเลยก็คือคุณต้องสร้าง Brand Mark และ Brand Name ต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักคุณมากยิ่งขึ้น เพราะสินค้าที่มีแบรนด์จะทำการตลาดง่ายกว่าสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ แล้วสุดท้ายถึงจะมาแข่งกันที่ราคา คำแนะนำแรกคือ ต้องรีบสร้างแบรนด์ก่อนเลยครับ
2. เพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) เพื่อพัฒนาธุรกิจ
เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในองค์กร เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ ฯลฯ เพิ่มคนเก่งเข้ามาทำให้องค์กรของคุณเก่งมากขึ้นไปอีก ทั้งหมดจะช่วยพัฒนาธุรกิจได้เร็วขึ้นกว่าเดิม วันนี้มีพวกเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือ Software ดีๆ เยอะมากที่จะเอามาใช้ได้ทันที คำแนะนำคือจงรีบนำมันมาใช้ให้เร็วที่สุด
3. ช่องทางการขาย (Channel) แบบเดิมไม่พอต้องมีมากขึ้น
ช่องทางการขายเท่าเดิมไม่พอต่อการทำธุรกิจอีกแล้ว ต้องอาศัยช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือหลัก ควรมีเว็บไซต์ของตัวเองจริงจัง มี Social Media ที่สามารถดำเนินการได้เอง ศึกษาและวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ชัดเจนให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าได้ถูกต้อง หากยังไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง ลองเข้าไปสร้างเว็บไซต์ฟรีได้ที่ http://bit.ly/2wkFkrr
4. เปิดตลาดต่างประเทศ (Cross Border) เสียที
เราปล่อยให้ต่างชาติบุกเข้ามาตีตลาดเราฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องขยายตลาดและลูกค้าออกไปต่างประเทศด้วย ขายอยู่แค่ในบ้านมีแต่ตายกับตายครับ ต้องเริ่มวางแผนนำสินค้าของคุณส่งออกต่างประเทศให้เร็วที่สุด ศึกษาดูว่าสินค้าของเรามีกลุ่มประเทศไหนบ้างที่พอจะมีโอกาสส่งออก เรื่องต่อไปนี้บอกเลยว่าจำเป็นมากๆ คือควรหาโอกาสไปดูงานต่างประเทศบ่อยๆ ไปหาพาร์ทเนอร์ ไปออกบูทพวกงาน Exhibition อะไรพวกนี้ ไปเปิดโลกกว้างๆ รู้เขารู้เรา ถึงจะชนะครับ
ที่สำคัญเมื่อเปิดสมองตัวเองแล้วก็เปิดช่องทางให้สินค้าของเราได้ส่งออกไปต่างประเทศด้วยช่องทางออนไลน์ผ่าน Marketplace ของประเทศต่างๆ เช่น จีน ยุโรป อเมริกา อาหรับ แอฟริกาใต้ ฯลฯ มีหลายเว็บไซต์ที่สามารถนำสินค้าไปลิสต์ขายผ่านทางออนไลน์ได้เลย วิธีการส่งออกต่างประเทศผมเคยเขียนเรื่อง “อยากส่งออกออนไลน์ ต้องรู้ ต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง” ลองไปย้อนอ่านกันดูนะครับ
5. มีทีมงาน (Team) ดูแลด้านออนไลน์โดยตรง
อย่างที่เขาว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ และสิบมือคลำก็ไม่เท่าคลำเอง หากคุณไม่มีใครที่จะมาโฟกัสเรื่องออนไลน์อย่างจริงจังมันจะไปสำเร็จได้ยังไง ต้องมีทีมงานหรือใครสักคนที่กำหนดชัดเลยว่าคนนี้นะจะเป็นคนพาธุรกิจของคุณเข้าสู่ออนไลน์ ควรกำหนด KPI ให้ชัดเจน ทีมนี้หรือคนคนนี้จะต้องเข้าใจธุรกิจในโลกออนไลน์ หาลูกค้าเป็น และการทำการตลาดออนไลน์เป็น เรื่องนี้จะทำเองหรือหาผู้เชี่ยวชาญหรือเอเจนซี่มาช่วยก็แล้วแต่เหมาะสม ทีมที่ว่านี้อาจใช้บุคลากรภายในที่พอมีความรู้มาทำหรือจะหาคนใหม่เข้ามาเสริมทีมก็ได้ ที่สำคัญต้องมีครับ
6. คุณ (You) นั่นแหละที่ต้องเข้าใจธุรกิจออนไลน์
คุณนั่นแหละคือกุญแจสำคัญที่สุด หากคุณไม่เข้าใจธุรกิจออนไลน์ก็ไม่มีทางที่จะพาธุรกิจรอดพ้นมรสุมนี้ได้ โดยเฉพาะตอนนี้คงไม่มีข้อแม้หรือข้ออ้างอีกแล้วว่า ไม่เป็น ไม่รู้ ไม่เก่ง เวลานี้คุณต้องรู้ต้องเข้าใจ ถึงจะสั่งงานและวางเป้าหมายให้กับองค์กรได้ ไม่ต้องถึงกับเก่งหรือต้องรู้ลึกซึ้ง แต่ต้องรู้บ้างและมีความเข้าใจธุรกิจออนไลน์ว่ามีการทำงานอย่างไร
วิธีการเข้าใจธุรกิจออนไลน์เร็วที่สุดคือให้ลองซื้อของออนไลน์จากต่างประเทศแล้วจะเข้าใจว่าคู่แข่งเขาขายกันอย่างไร ส่งอย่างไร หรือบริการอย่างไร? ซึ่งจะทำให้มองออกและเข้าใจว่าหากขายออนไลน์ มันจะเป็นอย่างนี้ๆ ที่สำคัญที่ผมเน้นเสมอคือต้องรีบทำเลย
คำแนะนำ 6 ข้อที่ว่ามานี้ ควรทำทุกข้อ หากต้องการให้ธุรกิจอยู่รอดและพาธุรกิจเข้าสู่ออนไลน์ได้สำเร็จ แค่อ่านจบอย่างเดียวไม่รอดนะครับ ต้องลงมือทำทันทีและทำอย่างจริงจังถึงจะสู้ศึกครั้งนี้ได้จริงๆ