“หลายคนถามผมว่าทำไมธุรกิจไทยจึงไม่ค่อยไปไหน? 

ทำไมประเทศไทยถึงไม่มี Unicorn?…”

ปัจจัยหลักข้อหนึ่งก็คือ “ธุรกิจในไทยส่วนใหญ่ ไม่ได้มีการขยายไปต่างประเทศ มีแต่ให้บริการในประเทศไทยเท่านั้น” ในขณะที่ธุรกิจที่เติบโตมาก ๆ หรือในระดับ Unicorn ส่วนใหญ่จะมีการขยายออกไปยังต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว

คำถามคือ? แล้วเราจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างไร!

ผมได้เชิญผู้ที่มีประสบการณ์ในการนำธุรกิจไทยหรือได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศแล้ว มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้หลาย ๆ คนที่มีความสนใจได้ฟังกันในงาน Beer Talk #5 Go Inter ที่บริษัทของผมได้จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม 2019 มาดูกันว่าวิธีการจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศต้องทำอย่างไร แบบไหน มีโมเดลอะไรบ้าง ฯลฯ

การขยายธุรกิจออกไปยังยังต่างประเทศ (International Expand) ในวันนี้ กลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กลุ่มประเทศใน CLMV รวมถึงภูมิภาคอาเซียน และอาจมองให้ครอบคลุมไปถึงภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก จริง ๆ หากมีการส่งเสริมให้ธุรกิจไทยก้าวออกไปลงทุนในต่างประเทศก็อาจทำให้การลงทุนในต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นด้วย

กับคำถามที่ว่าทำไมธุรกิจไทยยังไปไม่ถึงไหน? ทำไมเราถึงไม่มียูนิคอร์น? นั่นก็เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ของเราไม่ได้ขยายออกไปยังต่างประเทศเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ก็เห็นได้ว่าธุรกิจที่ได้ขยายไปยังต่างประเทศแล้วนั้นมีการเติบโตที่รวดเร็วมาก

ธุรกิจระดับยูนิคอร์นนั้นก็คือธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาห์ ที่รู้จักกันดีส่วนใหญ่เป็นสตาร์ทอัพชื่อดังที่อยู่ในซิลิคอนวัลเล่ย์ เช่น Uber, Snapchat, Airbnb ของจีน ก็เช่น Xiaomi, Didi Chuxing หรือ Omise สตาร์ทอัพเจ้าแรกของไทย

How to ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ

การขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ใช่ว่าทำไม่ได้ การออกไปต่างประเทศต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างสูง การจะคิดและวางแผนให้จบในวันเดียวไม่สามารถที่จะได้ ซึ่งจริง ๆ หลายคนก็ได้วางวิสัยทัศน์ไว้ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจด้วยซ้ำไป

การขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการ Joint Venture หาพาร์ทเนอร์มาทำธุรกิจร่วมกัน หรือการบุกเข้าไปทำธุรกิจด้วยตัวเองเลย ฯลฯ นักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จหลายคนได้ขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศถึงขั้นที่ไปตั้งหลักปักฐานอยู่ต่างประเทศเลยก็มี

ตัวอย่างประสบการณ์ของนักธุรกิจบางคนที่ประสบความสำเร็จ เช่น คุณหนุ่ย สมบูรณ์ ศุขีวิริยะ แห่ง Comanche บริษัทซอฟต์แวร์ไทยยุคแรก ที่บุกตลาดต่างประเทศไปทั่วโลกถึง 17 ประเทศ

เริ่มต้นจากการเห็นช่องว่างที่ไทยต้องใช้ซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ จึงคิดและเริ่มผลิตซอฟต์แวร์ขึ้นเอง โดยเริ่มใช้ภายในประเทศก่อน และพัฒนาต่อจนดีกว่าของต่างประเทศที่มีใช้กันอยู่ แล้วจึงส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยนำไปขายต่อหรือหา Dealer มาช่วย

อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือบริษัท อุ๊คบี (Ookbee) Startup Champion ของไทยโดยคุณหมู ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ เลือกใช้วิธีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยวิธี Join Venture มองหานักลงทุนทั้งจากการพูดคุยกับนักลงทุนที่รู้จักส่วนตัวหรือที่ได้จากการแนะนำ

ในช่วงแรกนั้นเป็นการร่วมลงทุนทั้งในด้านของเงินทุนและในส่วนของบุคลากรของประเทศนั้นด้วย ในช่วงหลังจึงเริ่มมีการส่งคนไทยเข้าไปทำงานแทนมากขึ้นและเริ่มนำธุรกิจกลับมาดูแลเอง

สำหรับธุรกิจที่รู้จักกันดีอย่าง Priceza.com โดยคุณไว ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ที่ขยายธุรกิจไปแล้วถึง 6 ประเทศ เริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการร่วมงานกับ Rakkuten ที่ได้สร้างฐานลูกค้าในต่างประเทศให้จำนวนหนึ่ง จึงมีความคิดว่าธุรกิจนี้สามารถขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศได้แน่นอน จึงเริ่มคุยกับ VC (Venture Investor) รายหนึ่ง และเริ่มต้นขยายออกไปนอกประเทศ

วิธีการที่น่าสนใจคือได้มีการจดโดเมนในต่างประเทศไว้ก่อนและให้ VC ที่มาลงทุนช่วยขยายธุรกิจให้ด้วย และได้มีการตั้งทีม Business Development ขึ้นมาอย่างจริงจังเพื่อขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ

จะเห็นว่าการเริ่มต้นที่จะการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ นอกจากเรื่องของวิสัยทัศน์แล้วยังต้องมองหาช่องทางอื่นเท่าที่มีเพื่อพาธุรกิจออกไปต่างประเทศให้ได้ตามที่หวัง วิธีการที่หลากหลายนี้อาจแค่ช่วยชี้ช่องทางให้ แต่การลงมือทำด้วยตนเองเลยทันทีจะพาไปถึงจุดหมายได้จริงมากกว่าครับ