ผมพูดถึงเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซีมาหลายครั้ง อยากบอกว่าตอนนี้เทรนด์เกี่ยวกับ Cryptocurrency, Blockchain หรือ NFT ถ้าใครกระโดดเข้าไปก่อน มีโอกาสเข้าไปใช้งาน เข้าใจหรือนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้ก่อน คือความได้เปรียบ

ครั้งนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของ NFT หรือ Non-Fungible Token แปลให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ การออกใบอนุญาตหรือใบรับรองใบหนึ่ง เป็นการออกเอกสารอันหนึ่งขึ้นมารับรองว่า สิ่งของชิ้นหนึ่งหรือสินทรัพย์ที่ทำขึ้นมาเป็นไฟล์ดิจิทัลผูกเข้ากับบล็อกเชนถือเป็นสัญญาดิจิทัลอันหนึ่ง ซึ่งสัญญาดิจิทัลอันนี้เป็นอนันต์ 

อนันต์ก็คือ ทุกคนทั่วโลกสามารถดูเอกสารนี้ได้หมดว่าไฟล์ต้นฉบับคืออะไร ใครเป็นคนทำออกมา คนที่ทำออกมาสามารถโอนให้ใครก็ได้ และคนที่ได้รับก็ยังสามารถโอนต่อได้ โดยมีใบรับรองสิทธิ์ความเป็นเจ้าของนี้แนบไปให้ทุกคนทั่วโลกดูได้

ไฟล์โทเคนหรือใบเอกสารสิทธิ์นี้จะแก้ไขไม่ได้ ไม่สามารถก๊อปปี้ได้ ต่อให้ได้ไฟล์นั้นไป เช่น ได้รูปภาพที่เป็น NFT ไป แต่สุดท้ายจะมีไฟล์เอกสารสิทธิ์นี้ยืนยันอีกทีว่าภาพภาพนี้มีเจ้าของและเจ้าของคือใคร 

ทำให้เมื่อมีใครสร้างภาพหรือสินทรัพย์ดิจิทัล NFT ขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นไฟล์เสียง รูปภาพ หรืออะไรก็ตามที่เป็นดิจิทัล ทุกอย่างเราสามารถสร้างใบรับรองหรือ certificate เอาไปแปะร่วมไว้ได้ และสามารถส่งต่อรวมถึงเอาไปค้าขายได้ด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้น NFT ในช่วงแรกจึงเหมาะกับแวดวงงานศิลปะ เพลง วิดีโอ เกม ไอเท็ม อาวุธในเกม ฯลฯ 

จริง ๆ สินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ใครก็เปิดดูได้ ก๊อปปี้ หรือดาวน์โหลดสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นได้ แต่จะไม่ได้สิทธิ์ในความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น สินทรัพย์ในโลกของ NFT แปลง่าย ๆ คือทุกคนก๊อปปี้ได้แต่ไม่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าของ คนที่เป็นเจ้าของคือคนที่ต้องมีโทเคน หรือมีสิทธิ์ของไฟล์ไฟล์นี้เก็บอยู่กับตัวเอง คุณค่าของมันไม่ใช่การมีไฟล์ไฟล์ แต่คือการเป็นเจ้าของไฟล์ไฟล์นั้น อย่างที่บอกไปว่า ต่อให้ได้ไฟล์นั้นไปแต่ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ ได้แค่มีไว้เท่านั้น

ความเป็นเจ้าของมีประโยชน์อย่างไร 

ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ทำให้สามารถขาย ย้าย โอนกรรมสิทธิ์เหล่านั้นได้ เช่น เริ่มมีคนเอาภาพที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง CryptoPunks ซึ่งเป็นภาพที่ดังมากตั้งแต่ปี 2017 ภาพนี้ถูกประมูลไปล่าสุด 7 ล้านเหรียญ 

หรือทวิตแรก หรือข้อความแรกที่ถูกส่งเข้าไปใน Twitter เจ้าของคือ แจ็ก ดอร์ซีย์ อดีต CEO ของทวิตเตอร์ ขายได้ในราคาประมาณ  2 ล้านเหรียญ โดยคนที่ซื้อไปจะได้สิทธิ์ของข้อความนั้นไป สรุปแล้วคือคุณจะได้กรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์นั้น ๆ ไป

ตอนนี้เมื่อโลกเปลี่ยนไป สิ่งต่าง ๆ ที่ถูกผลิตมาบนโลกออนไลน์มันถูกทำซ้ำหรือถูกก๊อปปี้ได้ง่าย แต่เมื่อมี NFT ออกมาและเริ่มถูกเอามาใช้ เช่น การเล่นเกม เมื่อก่อนจะมีคำว่า DeFi (Decentralized Finance) ตอนนี้เริ่มมีคำว่า GameFi เกิดขึ้น

GameFi คือ เมื่อก่อนอาวุธจะถูกสร้างออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ในยุคที่มี NFT เข้าเกี่ยวข้อง ไอเทมหรืออาวุธทุกอันจะถูกสร้างมาอย่างจำกัด และทุกอันจะมีไอดีของตัวเอง มีใบประกาศของตัวเอง เมื่ออาวุธนั้นมีจำกัด หากคุณอยากได้ก็ต้องไปซื้ออาวุธนั้นมา โดยต้องเอาเงินจริงไปเปลี่ยนเป็นเงินคริปโต แล้วเอาเงินคริปโตไปซื้อไอเทมมา เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการใช้ไอเทมนั้น 

จากของที่เมื่อก่อนไม่เคยมีมูลค่าเพราะจะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อมีระบบ NFT มีเรื่องของกรรมสิทธิ์ขึ้นมาในสินค้าดิจิทัลเกิดขึ้น จึงเริ่มมีการโอน ซื้อมาขายไปได้ ตรงนี้จึงเริ่มเข้าสู่โลกของ NFT และกำลังฮิตมากขึ้นเรื่อย ๆ 

และเริ่มมีคนเปิดตลาดกลางหรือ marketplace ขึ้นมาเพื่อเอาไว้ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ บางคนขายเพลง ภาพ หรืออะไรก็ตามที่เป็นดิจิทัล อย่างล่าสุดที่มีผู้ชายคนหนึ่งถ่ายภาพหัวนมตัวเองแล้วเอาไปขายในออนไลน์ ขายได้ถึง 9 แสนกว่าบาทเลยทีเดียว นั่นก็เพราะมันมีความหายาก มีเรื่องราวหรือ story เข้ามา คนก็เริ่มมีการเก็บสะสมเอาไว้

ต้องบอกว่าตอนนี้ NFT มาปลุกให้ศิลปินต่าง ๆ เริ่มหันมาสร้างภาพในโลก NFT มากขึ้น อย่างปัจจุบันที่ดังมาก ๆ ก็คือ Bored Ape Yacht Club ที่เป็นรูปลิงหน้าเบื่อ ๆ คอลเลกชันหนึ่งสร้างขึ้นมาไม่ซ้ำกัน 10,000 ภาพ แต่ด้วยความที่คนสร้างเป็นศิลปินที่โด่งดัง และที่สำคัญคือมีดาราดัง ๆ เข้าไปซื้อ เช่น Justin Bieber เองก็มาซื้อภาพ Bored Ape นี้ในราคา 15 ล้านบาท เท่ากับเขาเป็นเจ้าของภาพนั้นแล้วและมีสิทธิ์ที่จะนำไปส่งต่อได้ และจะนำไปทำอะไรก็ได้ 

อย่างเพื่อนผมบางคนก็ซื้อกรรมสิทธิ์เจ้าลิงหน้าเบื่อนี้มา เขาก็สามารถนำไปทำซ้ำได้หรือนำไปขายต่อให้เกิดมูลค่าได้ ตอนนี้คนดังหลายคนก็เริ่มมาสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท NFT มากขึ้นเรื่อย ๆ 

ตรงนี้คือสิ่งที่น่าสนใจว่า NFT จะมีลักษณะเป็นยูนีค เป็นดิจิทัล มีจำกัด และเป็นกรรมสิทธิ์ที่ส่งต่อได้เฉพาะเจ้าของเท่านั้น ในโลกของคริปโตจากเดิมสินค้าหรือของที่ถูกทำซ้ำได้ง่าย แต่พอเริ่มมีระบบหรือเทคโนโลยีช่วยไปทำให้เกิดกรรมสิทธิ์ขึ้นในไฟล์ไฟล์นั้น และทำให้เกิดเป็นมูลค่าขึ้นได้