<![CDATA[

               Coke ได้เปิดเว็บไซต์ให้บริการสำหรับเป็นจุดนัดพบสำหรับผู้ที่ชอบและรักในเสียง โดยหลังจากการเปิดให้บริการเว็บไซต์นี้ ได้มีการพูด ถึงกันแบบปากต่อปากกัน อย่างแพร่หลายมากในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นรูปแบบทางการตลาดในลักษณะ Viral Marketing ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการ มาระยะหนึ่งแล้ว ในตอนนี้มีผู้เข้า มาเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้หลายล้านเพจวิวต่อวันเลย และมียอดผู้เข้าเยี่ยมชมแบบไม่ซ้ำคน (Unique Visitor)มากกว่า 2 แสนคนต่อเดือนเลยทีเดียว และโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ามาในเว็บนี้จะใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์นี้มากกว่า 25 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งถือว่านานมาก สำหรับเว็บไซต์เว็บหนึ่งที่สามารถดึงความสนใจให้อยู่ในเว็บนี้ได้นานขนาดนี้


ยิ่งทำไมเว็บไซต์นี้ถึงได้มีคนเข้ามาเยี่ยมชมมากมายขนาดนี้? และอะไรคือจุดดึงดูดให้วัยรุ่นต่างหันมาติดใจในเว็บไซต์นี้?
    เมื่อตอนเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์นี้ ทาง Coke ได้เชิญบริษัทออนไลน์เอเยนซี่ถึง 6 แห่ง เข้ามาเพื่อให้นำเสนอแผนงานต่างๆ สำหรับ Coke โดยผู้ชนะในครั้งนั้นคือ StudioCom ซึ่งเป็นเอเยนซี่เล็กๆ ในเมือง Atlanta ซึ่งก่อตั้งโดยชาวโคลัมเบียชื่อนาย Juan Pablo Gnecco

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ หากต้องการนำไปใช้ที่อื่นๆ แจ้งนิดนึงนะครับที่ pawoot@tarad.com

The Power of Music
  ทาง StudioCom ได้เสนอองค์ประกอบหลัก 2 ส่วนให้กับเว็บไซต์ Coke โดยส่วนแรกเรียกว่า Launching Pad ซึ่งเป็นความ ร่วมมือระหว่าง Coke กับทาง AOL Music ในการนำเสนอข้อมูลของศิลปินหน้าใหม่ผู้ที่ออกเทปในแต่ละเดือน โดยมีการคัดเลือกมา 8 ราย และ ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ CokeMusic.com สามารถฟังเพลง, ดูมิวสิกวีดีโอ หรืออ่านประวัติของนักดนตรี ที่ตนชื่นชอบได้ โดยสาเหตุที่ทาง Coke ได้ตัดสิน ใจเลือกนำเสนอนักร้องหน้าใหม่ มากกว่าที่จะเลือกนักร้องที่โด่งดังอยู่แล้ว เพราะ ส่วนใหญ่วัยรุ่นมักจะไม่ค่อยมีเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลของวงดนตรีหน้าใหม่ที่แนว
โน้มที่กำลังจะเป็นวงดัง แต่การนำเสนอนี้คงไม่ใช่เป็นการนำเสนอวงที่ใหม่มากๆ โดยวงเหล่านี้ทาง AOL Music จะเป็นผู้คัดเลือกมา จากแนวเพลงต่างๆ ทีมี

องค์ประกอบส่วนสำคัญสองส่วนของเว็บไซต์นี้คือ
การนำคอมมูนิตี้มาร่วมอยู่ไว้ในบริการ "Coke Studios" ซึ่ง Coke Studios ก็คือ สถานทีนัดพบสำหรับ สมาชิกที่ลงทะเบียนไว้แล้ว โดยสมาชิกสามารถเข้ามาสร้างและมิกส์เพลงของตัวเอง ได้ผ่านระบบมิกส์เพลงออนไลน์ และนอกจากนี้ยังมีการสร้างระบบตัวละคร โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปภาพตัวละคร ตามลักษณะของตนเองได้ด้วย
ซึ่งตัวละครเหล่านี้เรียกว่า V-egos โดยผู้ใช้บริการสามารถใส่ลักษณะความเป็น ตัวของตัวเองเข้าไปในรูปแบบ ตัวละครของตนเองภายในเว็บไซต์ได้ และยังสามารถ พาตัวละครเดินเล่นในเวอร์ชัวล์คลับ ซึ่งมีการแบ่งออกเป็นแต่ละพื้นที่ๆ กระจายอยู่ทั่วโลก โดยตัวละครเหล่านั้นสามารถยืนและพูดคุยในพื้นที่ต่างๆ เหล่านั้นกับคนอื่นๆ ภายในห้องที่จัดเตรียมไว้ได้ รวมถึง สมาชิกสามารถเล่นเพลงที่ตัวเองให้มิกส์มาให้คนอื่นๆ ภายในห้องได้ฟังเพลงของตน ได้

   เมื่อสมาชิกเล่นเพลงที่มิกซ์ที่ เวอร์ชัวล์ คลับ ผู้ที่อยู่ในคลับตอนนั้นสามารถร่วมโหวตในเพลงเหล่านั้นได้ และผู้ที่ชนะในการเป็น DJ จะได้รางวัลเป็น "เดซิเบล" ซึ่งจะได้มากจากการ"ยกนิ้ว"ให้ผู้จากที่ฟังเพลงภายในห้องนั้นๆ โดยการร่วมโหวตจะได้ "เดซิเบล" ซึ่งคือค่าเงินที่ใช้ใน Coke Studios มาและสามารถ นำไปแลกเปลี่ยนเป็น อุปกรณ์และของรางวัลต่างๆ ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผู้เข้ามาใช้เว็บนี้ เกิดความสนุกสนานและกลับเข้ามาใช้บริการเว็บนี้อีก อย่างต่อเนื่อง

โดยภายในเว็บนี้มีฟังก์ชั่นหลายอย่างที่ประกอบเข้าด้วยกัน โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรหลายราย เช่น OddCast เป็นผู้ ให้บริการเทคโนโลยี Mixer เพลงออนไลน์ และบริษัท Sulake ใน Helsinki ก็ได้ให้บริการรูปแบบการเดินไปมาของตัวละคร ภายในเว็บไซต์

และนอกจากนี้ทาง Coke ยังได้มีบริการเสริมต่างๆ เช่นผู้เล่นสามารถเลือกปรับเปลี่ยนชุดของตัว ละครของตนได้ ในช่วงเทศกาล ต่างๆ เช่น เทศกาลคริสมาสต์ ดยสามารถเลือกหมวดซานต้าครอสมาตัวละครใส่ได้ และยังสามารถ
อดแทรกกลยุทธทางการตลาดเข้าไปใน เว็บไซต์นี้ได้ด้วย เช่น ผู้ใช้บริการ Cokemusic.com สามารถเก็บสะสมตัวเลขโค๊ดที่ได้จาก ขวดโค๊ก และสามารถตัวเลขโค๊ดที่ได้นำมาเปลี่ยนเป็น "เดซิเบล" ซึ่งสามารถนำไปแลกรางวัลต่างๆ ได้ภายในเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นการนำ Online Marketing กับ Offline Marketing มาผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ ผ่านเว็บไซต์นี้

สิ่งที่น่าสนใจอีกสิ่งคือ การแนะนำเว็บไซต์เว็บไซต์นี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจาก ระบบที่มีไว้สำหรับให้ "แนะนำเพื่อน" (Invited a Friend) ภายในเว็บไซต์ แต่เกิดจากการที่ผู้ใช้ ส่วนใหญ่ มักจะบอกต่อผ่านทางการส่ง E-mail หาเพื่อนๆ ของเค้าเกี่ยวกับบริการนี้ ซึ่งวิธีนี้จะวิธีที่ทำให้เว็บไซต์นี้มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการสูงมาก อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีนี้ถือว่าเป็น Viral Marketing ที่ได้ผลเป็นอย่างมากผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

สำหรับในประเทศไทย ก็เริ่มมีเจ้าของสินค้าที่ต้องการจับกลุ่มวัยรุ่นในเมืองไทย เริ่มมีการให้บริการเว็บไซต์ในลักษณะนี้แล้ว อย่างเช่น www.MobileLife.co.th ก็ได้ปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่ และเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นโดยมีบริการต่างๆ เน้นตรงไปยังกลุ่มวัยรุ่น โดยมีบริการสะสม "ป้าย "Badges" และสามารถนำไปแลกเป็นของรางวัลได้ (ดูไปแล้วจะคล้ายกับการสะสม "เดซิเบล" ของทาง CokeMusic.com) แต่อาจจะ ต้องมาดูกันว่าบริการของ MobileLife.co.th จะสามารถสร้างกระแสให้กับวัยรุ่นไทยจนสามารถเป็น Viral Marketing ได้ไหม? เรามาลองดู กันครับ….

โดย Pawoot P. 22/12/03

]]>