<![CDATA[

ปีนี้เป็นปีที่ธุรกิจเว็บไซต์หลายๆ แห่งเริ่มสร้างกลยุทธทางการตลาดรูปแบบใหม่ ที่นอกเหนือจากการสร้างการรับรู้ และการสร้างฐานลูกค้าจากลูกค้าทางออนไลน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หลายๆ เว็บไซต์เริ่มนำกลยุทธ การบุกเข้าไปสู่สื่อช่องออฟไลน์ (Offline) เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้า และการกระจายคอนเทนต์ (Content) และ คอมมิวนิตี้ (Community) ที่มีอยู่ออกไปให้กว้างมากขึ้นหลายๆ นอกเหนือจาก คนไทยที่เล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ประมาณ 10 กว่าล้านคน ออกไปยังคนกลุ่มใหญ่อีก 50 กว่าล้านคน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจให้มากที่สุด (อันนี้พูดถึงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในเมืองไทยเท่านั้นนะครับ)

 ยกตัวอย่างเช่นการ เริ่มบุกเข้าไปสู่การ นำ คอนเทนต์ (Content) ออกไปสู่สื่อสิ่งพิมพ์ (Publishing) ตอนนี้ก็เริ่มจะมีให้เห็นหลายๆ เว็บไซต์ที่เริ่ม มีการนำข้อมูลต่างๆ ภายในเว็บไซต์ออกมาพิมพ์เป็นในรูปแบบ "หนังสือ แมกกาซีน หรือ พ๊อกเก็ตบุ๊ก" เช่น เว็บไซต์ www.Eduzones.com เริ่มจัดทำแม็กกาซีน ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา ออกขายตามแผงหนังสือ หรือแม้แต่ เว็บไซต์ www.RodThai.com เว็บไซต์ซื้อ-ขายรถเองก็ได้ออกนิตยสาร RodThai ออกมาวางขายเช่นกัน โดยภายในเล่มจะเป็นข้อมูลการซื้อขายรถ ซึ่งการนำข้อมูลหรือคอนเทนต์ ออกมาสู่ช่องทางสิ่งพิมพ์ จะช่วยเป็นการสร้าง ช่องทางการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่ได้ใช่อินเทอร์เน็ตความคุ้มค่าอยู่สูงสุดในการบริหาร คอนเทนต์ที่มีอยู่ ให้มีประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าในช่องทางอื่นๆ

 หรือการออกมาเปิดหน้าร้านค้าจริงๆ เพื่อมาสนับสนุนหรือ Support การทำธุรกิจบนเว็บไซต์ ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่หลายๆ เว็บไซต์ E-Commerce ที่ค้าขายดีๆ เริ่มออกมาทำและสร้างหน้าร้านค้ามากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางที่สามารถให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ว่าเว็บไซต์เหล่านี้ มีตัวตนจริงๆ  เช่น www.Lens2u.com เว็บไซต์ขาย คอนแทคแลนส์ ก็ได้เปิดหน้าร้านค้าขึ้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถไปซื้อ หรือรับของที่หน้าร้านค้าได้เลย หรือเว็บไซต์ www.ThailandNotebook.com  ที่ตอนนี้ขยายออกมาหลายสาขา เพื่อรองรับลูกค้าทั้งทางเว็บไซต์และทางหน้าร้านค้าจริงๆ


 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ : เว็บไซต์ www.Lens2u.com


 

 

 

 

 

 

ภาพ: ThalandNotebook.com

     หรือแม้แต่การจัดงาน Event หรือ Exhibition ขึ้นมา เพื่อเป็นการดึงกลุ่มสมาชิก หรือคนที่เข้ามาใช้ในเว็บ มารวมตัวกัน เพื่อสร้างความต่อเนื่องของ เว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์ www.JobsDb.com ได้จัดงาน Career Exhibition ขึ้นมาเพื่อเป็นการพบกันระหว่าง บริษัทและผู้ที่ต้องการรับสมัครงาน หรือ เว็บไซต์ www.EduZones.com ได้จัดงาน EduZones Expo ขึ้นมา โดยเป็นงานมหกรรมการศึกษาที่ นักเรียนนักศึกษาสามารถเข้ามา หาข้อมูลสถาบันการศึกษาได้ที่งานนี้ โดยโมเดลการจัดงาน Exhibition นี้จะเป็นดึงบรรดา กลุ่มธุรกิจ หรือ ร้านค้า ที่ต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ของแต่ละเว็บไซต์ มาเข้าร่วมออกงาน และสามารถสร้างรายได้จากการขายพื้นที่ หรือการจัดกิจกรรม ภายในงาน ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ และความจงรักภักดีให้กับสมาชิก และผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในเว็บไซต์อีกด้วย แหม ยิงปืนนัดเดียวได้ทั้งนก ได้ทั้งเงินเลยนะครับ เหอะๆ….


 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ : งาน Career Exhibition ของ JobsDB.com


 

 

 

 

 

 

ภาพ : งาน Eduzones Expo

    นี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างบางส่วนของการบุกเข้าสู่ธุรกิจออฟไลน์ อย่างห้าวหาญของบรรดา เว็บไ
ต์ในเมืองไทย แต่คำถามคือ เราจะรู้ได้ยังไงว่า เว็บไซต์หรือธุรกิจของเราควรบุกออกไปสู่ธุรกิจออฟไลน์ ในรูปแบบไหนบ้าง?  คำตอบคงต้องกลับมาที่ กลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ของคุณเป็นใคร และเค้าเหล่านั้นอยู่ในโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่หรือไม่? ถ้าคำตอบคือ "ไม่" การขยายช่องทางเข้าสู่ธุรกิจออฟไลน์ ก็ดูเหมือนจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ ในการขยายธุรกิจของคุณให้กระจายออกไป ที่ๆ กลุ่มเป้าหมายของคุณสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แต่ก็ต้องระมัดระวังในการทำด้วย เพราะกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำผ่านสื่อออฟไลน์ส่วนใหญ่จะมี งบประมาณในการลงทุนและจัดทำค่อนข้างมากกว่า การทำบนสื่อออนไลน์ และอีกทั้งยังต้องการคนและทรัพยากรต่าง ๆ ในการเข้าไปจัดทำให้งานบรรลุออกมาสำเร็จ ดังนั้น ก่อนทำ ก่อนบุก คุณคงต้องมานั่งคิด และวางแผนให้ดีๆ เสียก่อน ก่อนที่จะได้ ตะลุยเข้าไปสู่ธุรกิจออฟไลน์ เพราะมันจะมีหลายๆ ปัจจัยที่บางทีคุณอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้  แต่หากคิดและวางแผนดีๆ แล้วละก็ ก็น่าจะลองลุยซักตั้ง เพราะการมีสื่อออฟไลน์อยู่ในมือ จะช่วยทำให้ธุรกิจออนไลน์ ครบและสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่ก็ต้องพยายมมองดู และผสาน (Synergy) สิ่งที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของ สมาชิกผู้ใช้เว็บไซต์คุณ และตัวเองคุณด้วยเช่นกัน

]]>