หากอยากจะลองขายของผ่านทาง internet ดูบ้าง จะทำได้อย่างไร ?

 

การขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต สามารถทำได้หลายรูปแบบ มีทั้งแบบที่ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แล้วแต่ความถนัดของเราและความเหมาะสม  โดยมีรูปแบบการขายได้ดังนี้

 

1. การประกาศซื้อ-ขาย

เว็บไซต์ E-Commerce ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจประกาศความต้องการ ซื้อ-ขาย สินค้าของตนได้ภายในเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์จะทำหน้าที่เหมือนกระดานข่าวและตัวกลางในการแสดงข้อมูลสินค้า ต่างๆ ของที่เราจะขายเป็นอะไรก็ได้ ที่อยู่รอบตัวเรา จะเป็นของมือสองก็ได้ โดยเริ่มจากไปโพสไว้ในเวปไซต์ที่เค้าเปิดให้โพสประกาศขายของ ซึ่งส่วนใหญ่จะฟรี เพียงแค่ตั้งกระทู้ประกาศขาย ในเนื้อหาก็ใส่รายละเอียดสินค้าและวิธีการชำระเงิน หรือถ้าอยากเริ่มมีหน้าร้านบ้างแล้ว ก็ลองใช้ facebook ดูก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เราก็จะมี facebook ใช้กันอยู่ ก็เปลี่ยน แทนที่จะใส่หน้าตัวเอง หรือหน้าเพื่อน มาเป็นรูปสินค้าแล้วก็คุยกันกับเพื่อนทาง facebook ติดต่อซื้อขายกัน เมื่อมีใครสนใจก็จะส่งข้อความมาถาม การซื้อขายรูปแบบนี้ ผู้ขายไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ของตัวเอ เพียงแค่อาศัยพื้นที่ของเว็บที่เปิดโอกาสให้ประกาศขายของ ก็สามารถเริ่มต้นการค้าขายได้แล้ว แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีสินค้าเป็นจำนวนมากๆ

2. เว็บไซต์แคตตาล็อกสินค้าออนไลน์

เป็น รูปแบบจัดทำเว็บไซต์ E-Commerce ในรูปแบบแคตตาล็อกออนไลน์ ที่มีรูปภาพและรายละเอียด สินค้าพร้อมที่อยู่เบอร์โทรติดต่อ แต่ไม่มีระบบการชำระเงินผ่านทางเว็บไซต์ หรือระบบช้อปปิ้งการ์ด (ตะกร้าสินค้าออนไลน์) โดยหากผู้สนใจสินค้าก็เพียงโทรสอบถามและสั่งซื้อสินค้าได้ ซึ่งเป็นการใช้เว็บไซต์เป็นเหมือนโบรชัวร์หรือแคตตาล็อกออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกดูรายละเอียดสินค้าและราคาได้

3. ร้านค้าออนไลน์

 

 

ร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูป

 

 

มีทั้งแบบที่ฟรี และแบบที่มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ตาม feature การทำงานที่เพิ่มขึ้นมา ถ้าแบบฟรีก็จะคล้ายๆในรูปแบบที่ 2 แต่ถ้าแบบเสียค่าใช้จ่าย ก็จะมีระบบจัดการสินค้า  ระบบตะกร้าสินค้า (Shopping Cart) ระบบการชำระเงิน รวมถึงการขนส่งสินค้า ซึ่งจะเป็นการซื้อขายออนไลน์ที่ครบสมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ซื้อสามารถสั่งซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที

4.การประมูลสินค้า

เป็น เว็บไซต์ E-Commerce ที่มีรูปแบบของการนำสินค้าของไปประมูลขายกัน โดยจะเป็นการแข่งขันเสนอราคาสินค้า หากผู้ใดเสนอราคาสินค้าได้สูงสุดในช่วงเวลาที่กำหนด ก็จะชนะการประมูลและสามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้นไป

แนะนำสินค้าที่ประมูลหากเป็นสินค้าใหม่ ควรมีราคาที่ไม่สูงกว่าราคาท้องตลาด ยกเว้นสินค้าเก่า บางประเภท หากยิ่งเก่ามากยิ่งมีราคาสูง เช่น ของเก่า ของสะสม

5.ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์

 

 

tarad.com คือเว็บไซต์ตลาดอีเล็คทรอนิกส์

 

 

เป็น เว็บไซต์ E-Commerce ที่มีรูปแบบเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ หรือห้างสรรพสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งภายในเว็บ รวบรวมเว็บไซต์ของร้านค้าและบริษัทต่างๆ มากมาย  แบ่งหมวดหมู่  ผู้ใช้สามารถเข้าไป ดูสินค้าค้นภายในร้านค้าต่างๆ ได้สะดวก

เว็บรูปแบบนี้จะต้องมีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี และต้องลงทุนสูงมาก และต้องพัฒนาคิดบริการรูปแบบใหม่และคิดโปรโมชั่น อย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเว็บไซต์รูปแบบนี้ เช่น tarad.com  ebay  weloveshopping.com เป็นต้น

คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ไทย แนะนำไว้ว่า ของที่จะขายผ่านทาง e-commerce จะเป็นอะไรก็ได้ ครก สาก รถบรรทุก เรือประมง ของมือสอง ฯลฯ แม้แต่วิญญาณคุณปู่ยังมีคนประกาศขายเลย โดยแม่ของเด็กคนหนึ่ง เห็นลูกชายกลัวผีคุณปู่ที่เสียไปแล้ว เลยนำวิญญาณคุณปู่มาประกาศขายทาง e-bay แต่ทว่าวิญญาณไม่สามารถซื้อขายกันได้ แม่จึงประกาศขายไม้เท้าของคุณปู่ ซึ่งบอกว่ามีวิญญาณของคุณปู่อยู่ในไม้เท้านั้นแทน และปรากฏว่า ก็มีผู้มาซื้อไปจริงๆ ในราคา 65,000 USD  โดยผู้ที่ซื้อไป เป็นเวปไซต์คาสิโนออนไลน์

คุณแม่ของเด็กผู้นี้ ยังขอให้ผู้ที่ซื้อไป เขียนจดหมายกลับมายืนยันกับลูกชายของเธอด้วยว่า วิญญาณของคุณปู่ได้ไปอยู่กับเค้าแล้วจริงๆ เพื่อให้ลูกชายหายกลัว (รายละเอียดอ่านได้จาก  msnbc )

ข้อมูลจาก – บทสัมภาษณ์คุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ไทย และpawoot.com

 

ข้อมูลจากเว็บ – http://www.it24hrs.com/