ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2018 มีงานสำคัญของคนโซเชียลงานหนึ่งคือ Thailand Zocial Awards 2018 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ทางผู้จัดงานคือ โธธ โซเชียล และโอบีว็อค ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานโซเชียลมีเดียของคนไทยในปี 2017 ออกมาโดยมีข้อมูลเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียที่น่าสนใจอยู่หลายเรื่อง วันนี้ผมขอพูดถึงตัวเลขต่างๆ ของโซเชียลมีเดียที่น่าสนใจมาก 3 แพลตฟอร์มคือ Facebook, Instagram และ Twitter
จากการอัปเดตการใช้งานโซเชียลมีเดียของประเทศไทย Facebook ในประเทศไทยมีผู้ใช้ 49 ล้านคนมากกว่าปีที่แล้ว 2 ล้านคน โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 4% แต่การเติบโตนี้กลับเป็นการเติบโตที่ลดลงจากปีที่แล้ว ในแง่ของการใช้งาน Facebook เรียกว่าเกือบเข้าใกล้ภาวะอิ่มตัว สังเกตได้จากการที่อัตราการเติบโตที่ไม่ค่อยจะสูงเท่าใดนัก ในขณะที่ Instagram มีผู้ใช้งานตอนนี้ 13.6 ล้านคน อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงคือ 24% ส่วน Twitter ตอนนี้มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ล้านคนแล้ว อัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 33%
เมื่อเปรียบเทียบดูอัตราการเติบโตของสื่อโซเชียลมีเดียจะเห็นว่า Facebook จะมีอัตราการเติบโตที่เริ่มปรับลดลง ในขณะที่ Twitter มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ตอนนี้มีอัตราคนที่ใช้งาน Twitter ในแต่ละเดือนมีมากถึง 5-7 ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเยอะมากทีเดียว จะเห็นว่าคนไทยเริ่มหันมาใช้งานกันมากขึ้นเหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ผู้ใหญ่เข้ามาใช้ Facebook กันมากขึ้น จึงทำให้เด็กๆ หลายคนเริ่มคิดว่าพ่อแม่หรือบรรดาผู้ปกครองเริ่มเข้ามารุกรานในพื้นที่ส่วนตัว และเริ่มที่จะโยกย้ายเข้ามาเล่นในทวิตเตอร์กันมากขึ้น ล่าสุด CEO ของทวิตเตอร์ Jack Dorsey เองก็ได้ออกมาประกาศผ่าน Periscope ของทวิตเตอร์ว่าทวิตเตอร์เองก็เริ่มมีความกังวลว่าเมื่อคนเริ่มหันมาใช้ทวิตเตอร์มากขึ้นแต่ไม่มีการยืนยันตัวตน ต่อไปทวิตเตอร์จเริ่มให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อเป็นการทำให้สังคมในทวิตเตอร์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
สำหรับตัวเลขจำนวนประชากรไทยที่ใช้ Facebook เลื่อนอันดับขึ้นมาจากปีที่มาอยู่ที่อันดับ 8 ส่วนประเทศที่มีประชากรที่ใช้ Facebook เป็นอันดับ 1 แซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นมาก็คืออินเดีย ข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจมากคือประเทศในกลุ่มอาเซียนของเราติดอันดับ Top 10 ถึง 4 ประเทศด้วยกันนั่นคือนอกจากไทยแล้วยังมีอินโดนีเซียที่อยู่ในอันดับ 3 ฟิลิปปินส์อันดับ 6 และเวียดนามในอันดับ 7 จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนในอาเซียนจะเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมในการใช้โซเชียลมีเดียติดอันดับโลกเลยทีเดียว ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ผมเพิ่งได้ไปร่วมงานที่สิงคโปร์คืองาน eTail Asia 2018 ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปพูดเรื่อง Social Commerce เกี่ยวกับการที่คนไทยมีรูปแบบการซื้อของบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Instagram หรือใช้ Facebook Live ในการขายของ ซึ่งผู้ร่วมสัมมนาจากอาเซียนด้วยกันอย่างมาเลเซียหรือเวียดนามนั้นต่างก็มีข้อมูลที่เหมือนๆ กันกับเรา
เมื่อกลับมาดูการใช้งานในระดับจังหวัด กรุงเทพฯ ยังคงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ รองลงมาคือเชียงใหม่ที่แซงหน้าชลบุรีขึ้นมาเป็นอันดับสองแทน ส่วนตัวเลขที่น่าสนใจอีกเรื่องที่มีการรายงานเข้ามาเป็นปีแรกคือจำนวนผู้ใช้ Facebook Messenger อันดับหนึ่งคืออเมริกา ประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับที่ 7 มีคนใช้งาน 26 ล้านคน ช่วงเวลาที่คนไทยนิยมใช้ Facebook มากที่สุดคือมีการกดไลค์ คอมเม้นต์ แชร์มากที่สุดคือช่วงเวลาประมาณ 20.00-21.00 น. ในเรื่องของ reaction คนไทยยังนิยมกด Like ถึง 89% Comment 3% และ Share 5% จะเห็นว่าคนไทยยังชอบการแชร์มากกว่าการคอมเม้นต์ ลึกลงไปอีกหน่อยในเรื่องของ reaction คนไทยชอบที่จะกด Love และ Haha มากสุด และที่น้อยสุดคือ Angry
มาดูข้อมูลของ Instagram กันบ้างที่ตอนนี้กลายเป็นเครื่องมือที่ดีมากตัวหนึ่งในการที่จะขายของหรือทำธุรกิจกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นและโดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง ในประเทศไทยเองตอนนี้มีผู้ใช้งานอยู่ประมาณ 14 ล้านคนและอยู่ที่อันดับ 14 ของโลก จังหวัดที่มีการใช้งานมากที่สุดยังคงเป็นกรุงเทพฯ รองลงมาก็คือเชียงใหม่และชลบุรี ช่วงเวลาที่มีการใช้ Instagram มากที่สุดในวันธรรมดาคือช่วงราวๆ หนึ่งทุ่ม และเสาร์-อาทิตย์จะใช้ตลอดทั้งวัน สาเหตุที่คนนิยมใช้กันมากในช่วงหนึ่งทุ่มน่าจะมาจากฐานคนที่ใช้ Instagram ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซึ่งเวลาถ่ายรูปสักหนึ่งรูปจะต้องผ่านการปรับแต่งบนแอปพลิเคชั่นจำนวนมากพอสมควรกว่าที่จะยอมโพสต์ออกมาจึงต้องใช้เวลาในการทำบ้าง และเดี๋ยวนี้ Instagram มีอีกฟีเจอร์หนึ่งคือ Story คนนิยมใช้กันมากและเริ่มมีแบรนด์หรือสินค้าบางตัวหันมาใช้ Story ในการทำโฆษณาและสร้างยอดขายได้ดีมากด้วย ซึ่งน่าสนใจไม่น้อย
ในฝั่งของ Twitter ช่วงเวลาที่คนไทยใช้ทวิตเตอร์สูงสุดก็คือ 20.00-22.00 น. คนที่ใช้ทวิตเตอร์จะเป็นกลุ่มคนนอนดึก และกลุ่มที่ใช้จะเป็นพวกเด็กรุ่นใหม่ๆ เป็นวัยรุ่นพวกกลุ่มติ่งเกาหลีซึ่งจะอยู่รวมกันเป็นชุมชนที่ชอบเหมือนๆ กัน และกลุ่มศิลปินคนไทยที่ติด hastag อันดับต้นๆ ก็คือเป็ก ผลิตโชค ซึ่งได้รับรางวัลในงาน Thailand Zocial Awards ครั้งนี้ด้วย
จากการวิเคราะห์ของกลุ่มโธธ โซเชียล และโอบีว็อค กับกรณีที่ Facebook ได้มีการปรับอัลกอริทึ่ม เมื่อเปรียบเทียบของปี 2017 และ 2018 พบว่าในการโพสต์หนึ่งครั้งการเข้าถึงจะลดน้อยลงจากเดิมถึง 27% ซึ่งถือว่าลดน้อยลงและค่อนข้างจะส่งผลกระทบมากทีเดียว และเมื่อมองในส่วนของ Twitter ที่มีการเติบโตขึ้นมากนั้นและคำถามที่ว่าแบรนด์หรือเจ้าของธุรกิจควรจะเข้ามาใช้ทวิตเตอร์หรือไม่ จากข้อมูลของปี 2016 และ 2017 นั้นมีจำนวน Active User เพิ่มขึ้นถึง 83% และจำนวนแบรนด์ที่มาใช้ Twitter ก็มีเพิ่มถึง 124% ซึ่งเป็นตัวเลขหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจโดยเฉพาะกับธุรกิจที่สินค้ามีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น และยังมีบางกลุ่มผู้ใหญ่ที่ใช้ Twitter ในการเสพข่าวแบบ realtime ซึ่ง Twitter เองก็ดูจะเหมาะมาก
แล้วหากว่าใช้ Facebook อยู่ คอนเทนต์ฟอร์แมตใดที่จะเหมาะที่จะใช้มากที่สุด ได้มีการวิเคราะห์ออกมาแล้วพบว่าการโพสต์แบบ Video จะทำให้มีคนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด ฉะนั้นควรลองทำ Video Content ดูซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการทำวิดีโอบน Facebook นั้นหากสังเกตจะเห็นว่าหลายคนจะไม่เปิดเสียง ดังนั้นวิดีโอบน Facebook หลายๆ ตัวจะมีซับไตเติ้ล มีตัวหนังสือวิ่งด้วย มีข้อมูลว่าคนใช้เวลาเลื่อนฟีดบน Facebook ใช้เวลา 1 ฟีดแค่ 1.2 วินาที ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนหยุดดูให้ได้ การทำวิดีโอมาร์เก็ตติ้งก็เช่นเดียวกันต้องทำให้คนหยุดดูให้ได้ในเวลาเท่ากันนี้ ทั้งหมดข้างต้นคือข้อมูลจากส่วนหนึ่งในงาน Thailand Zocial Awards
นอกจากนั้นได้มีการเชิญ Hot Social Media ในประเทศไทยมาทั้ง Pantip, Twitter, Line, Facebook และ YouTube มานั่งคุยกันว่าในปีนี้จะมีอะไรใหม่ๆ บ้าง ซึ่งในปีนี้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยจะมีอะไรที่พัฒนาไปหลายอย่างมาก เช่น Pantip จะเปิดบริการใหม่ชื่อ Brand Expert Account คือให้แบรนด์หรือเจ้าของสินค้าสามารถเข้าไปเขียนหรือเข้าไปตอบคำถามได้และบริการนี้ฟรี และตอนนี้ Pantip จะมีบริการที่ชื่อว่า Brand Review สามารถให้ Pantip รีวิวสินค้าให้ได้เลย และยังมีของสื่ออื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ลองเข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้โดยค้นหาด้วยคำว่า “Thailand Zocial Awards” ซึ่งจะมีสรุปข้อมูลหลายๆ อย่างที่จำเป็นมากสำหรับคนที่ต้องการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย