ผมเองลงทุนในสตาร์ทอัพมาเป็นสิบปีแล้ว และการตั้งกองทุนก็เป็นสิ่งที่อยู่ในใจมานานแล้ว โดยเฉพาะในช่วงหลังมานี้บริษัทที่ผมไปลงทุนนั้นออกดอกผลได้ดี บางบริษัทมีผลตอบแทนเป็น 100% เลยทีเดียว นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากจะเริ่มเปิดเป็นกองทุนเพื่อสตาร์อัพขึ้น

ผมลงทุนในสตาร์ทอัพไปเกือบ 40 บริษัท ใช้เงินไปหลายสิบล้านแล้ว เมื่อเราลงทุนไปเยอะกระสุนเราเริ่มหมด พูดง่าย ๆ ว่าจะไม่มีเงินลงทุนแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังมีบริษัทดี ๆ ตั้งขึ้นมาอีกมากมายเลย มีน้องรุ่นใหม่ ๆ บริษัทใหม่ ๆ เต็มไปหมด ผมอยากลงทุนแต่ว่าผมไม่มีเงินลงทุน

ผมจึงคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะเปิดเป็นกองทุน อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ใครที่มีเงินสามารถนำเงินมาลงทุนไว้ในกองทุนนี้ได้ จากนั้นผมจะนำเงินไปบริหาร ไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยผมจะเน้นไปที่ หนึ่ง กลุ่มธุรกิจในประเทศไทย สอง ในกลุ่มอาเซียนซึ่งผมเองมีคอนเนกชันอยู่ และผมเห็นโอกาสที่ว่าธุรกิจไทยหลาย ๆ แห่งที่ผมไปลงทุนหรือมีอยู่แล้วนั้นเขาสามารถที่จะโยกย้ายหรือขยายไปต่างประเทศได้ง่ายมาก 

ความแตกต่างของการขยายไปต่างประเทศของสตาร์ทอัพกับธุรกิจแบบเดิมก็คือ หากผมเป็นโรงงานผลิตสินค้าอยากจะไปต่างประเทศผมก็ต้องไปตั้งโรงงานที่นั่น ไปผลิต ไปจ้างคนที่นั่น ฯลฯ แต่ธุรกิจสตาร์ทอัพหรือเทคโนโลยีหากอยากไปต่างประเทศนั้นไปง่ายมาก แค่บินไป ไปเช่า co-working space มีพนักงานแค่ไม่กี่คนก็สามารถเปิดเป็นออฟฟิศขายของคนที่นั่นได้แล้ว 

นั่นก็เพราะความเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต เมื่อผลิตเสร็จแล้วเราสามารถยกเทคโนโลยีมาให้คนในประเทศนั้น ๆ ใช้บริการได้เลย จากแนวคิดนี้ทำให้ผมต้องการ

หนึ่ง ตั้งเป็นกองทุนสตาร์ทอัพขึ้นมา

สอง ผมไม่อยากให้เป็นแค่การลงทุนเงินอย่างเดียว ผมอยากให้เป็นกองทุนที่ช่วยในเชิงโอเปอเรชัน การเงิน กลยุทธ์ บุคคล ฯลฯ เพราะจุดอ่อนของธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก สตาร์ทอัพ คือไม่ค่อยเก่งเรื่องหลังบ้านหรือแม้แต่เรื่องของกฎหมาย 

กองทุนนี้จะคอยช่วยในทุกอย่าง ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถโฟกัสกับ core ของธุรกิจจริง ๆ ได้ เหมือนเป็นพี่เลี้ยงให้ เช่น เขาไม่ต้องหยุดงานเพื่อมาวางแผนทำเอกสารต่าง ๆ เมื่อต้องคุยกับนักลงทุน เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ core ธุรกิจของเขา 

ผมจึงตั้งใจเอาไว้ว่าจะเปิดกองทุนที่มีขนาดไซส์ประมาณ 500 ล้านบาท และอายุของการลงทุนประมาณ 10 ปี ซึ่งจากหลาย ๆ บริษัทเท่าที่ผมดูมา ตามปกติการลงทุนประมาณ 5 ปีก็จะเริ่มมีผลตอบแทนกลับมาให้เห็นแล้ว 

แต่ปัญหาในตอนนี้ของผมคือผมรู้ว่า ผมเลือกสินค้าได้ดี เลือกบริษัทได้ดี แต่ผมไม่เก่งเรื่องการเงิน ผมจึงกำลังเปิดรับสมัคร Fund Manager คนที่มรีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของการลงทุน มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารกองทุน หากคุณใช่มาจับมือกับผมได้เลย ซึ่งจะทำให้ผมมีผู้ช่วยหรือพาร์ทเนอร์มาดูแลเรื่องกองทุน ส่วนผมจะดูแลหาบริษัทต่าง ๆ ที่จะเลือกลงทุนให้เอง ใครที่สนใจติดต่อมาที่เฟซบุ๊กของผมได้เลยครับ

จุดเด่นของกองทุนนี้คือผมอยากผลักดันธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ของคนไทยให้เติบโตมากขึ้นในระดับภูมิภาค จะรอให้ต่างชาติบุกเราอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ผมต้องการสร้างและผลักดันให้ธุรกิจของเด็กไทยโตขึ้นและได้ออกไปต่างประเทศ เขาต้องไปเป็นขุนพลธุรกิจดิจิทัลที่สามารถนำพาธุรกิจของประเทศไทยออกไปข้างนอก และดึงเม็ดเงินเข้ามาในประเทศไทยให้ได้

สำหรับสตาร์ทอัพที่ผมสนใจอยู่น่าจะเกี่ยวกับ หนึ่ง Data หรือเกี่ยวกับข้อมูล ซึ่งผมเองก็ลงทุนมากอยู่แล้ว สอง ธุรกิจเกี่ยวกับ Business Operation เช่น ผมไปลงทุนเรื่องซอฟต์แวร์ทางด้านคลินิก ซอฟต์แวร์การบริหาร ซอฟต์แวร์ทางด้านกีฬา ฯลฯ ผมชอบซอฟต์แวร์แบบที่ธุรกิจต้องใช้ เช่น จากที่เคยต้องใช้กระดาษ ใช้คน ซอฟต์แวร์นี้จะไปช่วยทดแทนคนหรือไปช่วยคนได้ นั่นหมายถึงซอฟต์แวร์เหล่านี้จะยึดติดกับบริษัทเลย บริษัทจะเลิกใช้ยากเพราะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไปแล้ว 

หรือซอฟต์แวร์ทางด้าน Healthcare หรือ Telehealth ธุรกิจทางด้าน Fintech, Big Data หรือพวก Deep Tech ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง ผมเล็งไว้หลายตัวและไซส์การลงทุนในบริษัทนั้น ๆ ไล่ตั้งแต่ 1 ล้านบาทไปจนถึงประมาณ 20 ล้านบาท 

ผมมีแผนในการไปลงทุนในภูมิภาคต่าง ๆ นั้น ผมรู้ว่าบริษัทต่าง ๆ เมื่อจะไปลงทุนในต่างประเทศนั้นมีปัญหา มีขั้นตอนอยู่มาก ผมจะไปเตรียมความพร้อมไว้ให้ บริษัทไหนในกลุ่มหากต้องการจะไปก็สามารถไปได้ทันที เพราะเรามีพนักงานฝ่ายต่าง ๆ รออยู่แล้ว มีคนตั้งบริษัทให้ที่นั่นเลย ฉะนั้น การที่จะไปเปิดบริษัทที่นั่นทำได้ง่าย และทุกอย่างแชร์กันได้

ถึงแม้ผมจะมีพนักงานเพียงไม่กี่คนแต่ผมสามารถรองรับสตาร์ทอัพที่จะไปตั้งบริษัทที่ต่างประเทศได้หลายสิบบริษัท โดยไม่ต้องใช้คนที่นั่นเยอะมาก ทำให้ต้นทุนบริหารจัดการต่ำลง แต่เราใช้ออนไลน์เป็นเครื่องมือในการไปกวาดลูกค้าจากประเทศนั้น ๆ ได้

สำหรับสตาร์ทอัพที่สนใจคงต้องรอให้ผมตั้งกองทุนก่อนนะครับ ซึ่งตอนนี้มีคนต้องการที่จะมาลงทุนด้วยเรียกว่าพอจะมีเงินมารอแล้ว อย่างที่บอกไปว่าผมยังไม่มีคนมาช่วยในเรื่องของการบริหารเงินครับ ตอนนี้ใจพร้อมมากและอยากจะดันน้องรุ่นใหม่ ๆ ให้โต ตอนนี้ผมกำลังทำโครงสร้างให้เสร็จเสียก่อน แล้วนี่จะกลายเป็นกองทุนของคนไทย เพื่อคนไทย และจะผลักดันให้ธุรกิจไทยเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไปครับ