<![CDATA[

ท่านเคยสังเกตบ้างไหมว่ารอบๆ ตัวท่านในหนึ่งวัน ท่านจะต้องเจอกับการโฆษณาสินค้าและบริการในรูปแบบต่างๆ มากมาย และในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าท่านจะเดินทางอยู่บนท้องถนน ขับรถ อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน ดูภาพยนตร์ หรือแม้แต่เข้าห้องน้ำตามร้านอาหาร (!?) จนบางครั้งท่านก็มีมากเสียจนท่านจำสินค้าหรือบริการอะไรไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ นักโฆษณาในปัจจุบันจึงพยายามหาสื่อรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคให้มากขึ้น เท่านั้นยังไปเพียงพอ สื่อดังกล่าวจะต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนี่อง รูปแบบของการโฆษณาจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามไปด้วยเช่นกัน

การโฆษณาทางโทรทัศน์ ดูจะเป็นรูปแบบการโฆษณาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ในระดับกว้างและทุกกลุ่ม แต่ก็ต้องแลกมาซื่งเม็ดเงินเป็นจำนวนมากที่จะต้องใช้จ่าย ทั้งในด้านการผลิตและค่าโฆษณา ซึ่งลักษณะของสินค้าที่จะทำการโฆษณาทางโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภคสำหรับคนทั่วๆ ไป (Consumer Product) การโฆษณายังมีในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สื่อสิ่งพิมพ์, สื่อวิทยุ หรือสื่อป้ายกลางแจ้ง เป็นต้น ซึ่งสื่อแต่ละประเภทก็จะมีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และราคาค่าโฆษณาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการโฆษณาดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นลักษณะ สื่อโฆษณาแบบสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) ซึ่งในการสื่อสารลักษณะนี้จะเป็นการสื่อสารจากเจ้าของสินค้าตรงไปยังผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว ผู้บริโภคไม่สามารถโต้ตอบผ่านกลับมายังสื่อนั้นๆ ได้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นในลักษณะของ สื่อโฆษณาแบบสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) ซึ่งจะเป็นรูปแบบการโฆษณาที่ผู้รับสื่อโฆษณาสามารถโต้ตอบกลับผ่านสื่อโฆษณาไปยังเจ้าของสินค้าหรือบริการได้

 

และด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เป็นสื่อในรูปแบบที่สามารถตอบโต้ได้ (Interactive Media) การโฆษณาจึงเป็นไปในลักษณะของการสื่อสารแบบสองทางมากชึ้น การโฆษณาด้วยสื่อออนไลน์ หรือ Online Advertising นี้ ผู้โฆษณาจะสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ ที่แน่นอนจากการทำโฆษณาในแต่ละครั้งได้ เช่น จำนวนผู้เห็นสื่อ, ความคิดเห็นจากกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า, ข้อมูลของผู้ชมสื่อ และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำไปวิเคราะห์ และเพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการต่างๆ ให้ตรงตามความต้องการมากขึ้นได้ นอกจากการโต้ตอบได้แล้ว ข้อดีอีกประการหนึ่งของสื่อออนไลน์คือ หากลูกค้าสนใจซื้อสินค้าหรือบริการ ลูกค้าก็จะสามารถสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้เลย หรืออาจจะชำระเงินผ่านระบบอีคอมเมิร์ซได้ทันที ถือว่าเป็นสื่อโฆษณาทำหน้าที่ได้ครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ คือตั้งแต่สร้าง Awareness, Interest, Desire, จนกระทั่งถึงการตัดสินใจซื้อ หรือ Action เลยทีเดียว

 

และหากคุณเป็นเจ้าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์สักชิ้น ที่ต้องการให้โฆษณาสินค้าของคุณมุ่งตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน คุณอาจจะเลือกสื่อโฆษณาออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง เนื่องจากเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ จะมีกลุ่มเป้าหมายของเว็บค่อนข้างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าท่านต้องการทำการโฆษณาสินค้าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใหม่ที่เจาะกลุ่มไปยังกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน ท่านอาจเลือกใช้สื่อออนไลน์โดยเลือกซื้อโฆษณาบนเว็บไซต์ที่เน้นให้ข้อมูลหรือวิเคราะห์สินค้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะแน่นอน กลุ่มที่เข้ามาใช้เว็บเหล่านั้น ก็คือกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อสินค้าของคุณนั่นเอง

 

และด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ การโฆษณาบนสื่อออนไลน์จึงมีรูปแบบที่หลากหลายและน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เพื่
ดึงดูดความสนใจจากผู้ชม รูปแบบการโฆษณาที่เป็นที่นิยมที่สุดบนสื่อออนไลน์ คือการใช้แถบโฆษณา หรือ
Banner Ads การโฆษณารูปแบบนี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไปตามเว็บไซต์ต่างๆ และถ้าเจ้าของสินค้าต้องการเพิ่มความเด่นให้กับโฆษณาของตนเอง ก็อาจจะเลือกใช้สื่อโฆษณาแบบลอยโดดเด่น หรือ Floating Ads ซึ่งในปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมไม่แพ้ Banner Ads นอกจากนั้น สินค้าบางประเภทอาจจะเหมาะสมกับสื่อโฆษณาเชิงข้อมูล หรือ Advertorial ซึ่งจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าหรือเกี่ยวกับสินค้าของตน เพื่อโฆษณาสินค้าไปในทางอ้อม และในบางกรณี เจ้าของสินค้าหรือบริการอาจจะไม่อยากตั้งใจขายสินค้าของตนเองอย่างจงใจ ก็สามารถเลือกการโฆษณาแฝงตามสื่อออนไลน์ในรูปแบบอื่น เช่น พัฒนาเกมที่ใช้ชื่อสินค้าของตน และใส่โลโก้ของสินค้าเข้าไปในเกมนั้น หรือผู้พัฒนาเกมเองก็อาจจะเว้นเนื้อที่บนเกมของตนเองเพื่อจะได้เสนอขายเนื้อที่โฆษณานั้นให้กับเจ้าของสินค้าหรือบริการเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตัวเกมอีกทางหนึ่ง

 

สื่อออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ดังกล่าว เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการสื่อโฆษณาเมืองไทยมากขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่ในด้านของค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากนัก ทั้งค่าผลิตและค่าสื่อโฆษณา การดำเนินการที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ประกอบกับจำนวนของเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ยังมีเนื้อที่ออนไลน์อีกมากมายยังเหลือว่างสำหรับโฆษณาสินค้าและบริการของท่าน และหากท่านเป็นอีกผู้หนึ่งที่ต้องการโฆษณาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและราคาไม่แพง ลองพิจารณาสื่อออนไลน์ดูสิครับ

Pawoot Pongvitayapanu

18/10/03

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ หากต้องการนำไปใช้ที่อื่นๆ แจ้งนิดนึงนะครับที่ pawoot@tarad.com

]]>