<![CDATA[

Google.com เว็บไซต์ค้นหาข้อมูล (Search Engine) ชื่อดังของโลก ที่เป็นเว็บไซต์จุดเริ่มต้นของนักท่องอินเทอร์เน็ตทุกคนที่ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ และรองรับการค้นหา มากกว่า 150 ล้านคร้งต่อวันกำลังจะนำบริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ IPO ( Initial Public share Offering) โดยจากการประมาณราคาของนักประเมินได้ประเมินราคาของ Google ไว้ที่ 1500 – 2500 ล้านเหรียญ โดยจะเริ่มมีการเปิดให้ประมูลขายหุ้นทางออนไลน์ประมาณต้นปีหน้า ซึ่งการเข้าตลาดหุ้นในครั้งนี้ของ Google สร้างความสนใจไม่น้อยให้จากนักลงทุนในตลาด Wall Street  โดยจุดเริ่มต้นของ Google เริ่มเมื่อ 5 ปีก่อนจากเด็กมหาวิทยาลัย สแตนด์ฟอร์ด ที่ได้เริ่มต้นการทำระบบค้นหาข้อมูลด้วยกัน

 

ดูเหมือน google จะเป็นหุ้นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ดูน่าสนใจที่สุดในตลาดตอนนี้ นับหลังจากที่ได้มีบริษัทอินเทอร์เน็ตอย่าง eBay, Amazon.com and Yahoo.เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งความสำเร็จของ Google สร้างความดึงดูดและความสนใจของคู่แข่งในตลาดทางด้าน Search Engine มากขึ้น อย่างเช่น Yahoo เพิ่งได้ซื้อกิจการ บริษัท Overture ซึ่งเป็นบริษัทขายโฆษณาทาง Search Engine ในราคา 1.6 พันล้านเหรีญ และทาง Microsoft ได้ใช้เงินหลายล้านเหรียญในการพัฒนาระบบ Search Engine ของตัวเอง โดยในตอนนี้ระบบค้นหาในเว็บไซต์ MSN ได้ให้บริการโดยบริษัท Overture และบริษัท Inktomi

 

 

รูปแบบการสร้างรายได้ของ Google

                การเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ Google ได้ปลุกธุรกิจดอทคอมขึ้นมา ซึ่งได้ซบเซาลงไปในช่วงยุคปลายปี 90 ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากดอทคอมในยุคนั้นเพราะ Google ไม่ได้เร่งที่จะเข้าไปทำเงินในตลาดหลักทรัพย์เหมือนบริษัทดอทคอมอื่นๆ ที่พยายามจะนำพาบริษัทของตัวเองเข้าไปเพื่อสร้างเงินจากตลาดหลักทรัพย์ แต่ตัวบริษัท Dot Com เหล่านั้นก็ต้องม้วนพับกลับไป เพราะไม่สามารถแสดงรูปแบบการสร้างรายได้อย่างแน่นอนให้กับนักลงทุนในตลาดให้เห็น แต่ Google สามารถสร้างข้อพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า บริษัท Google เองสามารถสร้างรายได้กว่า 800 ล้านเหรียญในปีนี้ ซึ่งคิดเป็นกำไรมากกว่า 200 ล้านเหรียญ จากการขายโฆษณาซึ่งปรากฏอยู่ในการค้นหา ข้อมูลภายในเว็บไซต์ ของ google และยังรวมถึงการขายเทคโนโลยี Search Engine ให้กับบริษัทๆต่างๆ เช่น Amerca Online ซึ่งตรงนี้เอง ทำให้ Google เป็นธุรกิจดอทคอม ที่สามารถอยู่รอดได้จากการให้บริการทางด้านออนไลน์อย่างแท้จริง

 

และด้วยการตื่นตัวของการทำธุรกิจด้านการค้นหาข้อมูล (Search Engine) จากการเริ่มต้นของ Google จึงเป็นสาเหตุทำให้ธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุด ในธุรกิจการให้บริการออนไลน์ และนอก

จากนี้ Google ยังได้เปิดให้บริการใหม่ๆ ตามมา ได้แก่ Google News บริการค้นหาข่าวสารต่างๆ จาก 4000 แหล่งข่าว และรวมถึงการค้นหาข้อมูลการซื้อสินค้า ซึ่งใช้ชื่อว่า Froogle (www.Froogle.com) และนอกจากนี้ Google ยังมีกลยุทธ์ในการ Localize Service ของ Search Engine ของตัวเองออกไปยังหลายๆ ภาษาทั่วๆโลก ตรงนี้เองทำให้ Google สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

 

มองย้อนดอทคอมเมืองไทย

                หากมองดูต่างประเทศแล้วจะพบว่าธุรกิจดอทคอมของต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้ๆอย่างมากมายและหลากหลายวิธี ซึ่งหากลองมามองดูปัจจัยสำคัญๆ ที่ทำให้บริษัทเหล่านั้นสามารถทำได้ ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น รูปแบบของการให้บริการที่หลากหลาย, ขนาดของตลาดที่ให้บริการใหญ่กว่าที่อื่นๆ เว็บไซต์ที่เปิดมาจึงสามารถเปิดให้บริการให้กับคนทั่วโลก, ความเป็นเจ้าของและเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี, การนำเทคโนโลยีไปใช้กับชีวิตประจำวันและธุรกิจซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และที่สำคัญที่สุดคือ รุปแบบการสร้างรายได้ที่สามารถสร้างเงินได้อย่างแน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้ป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดอทคอมสามารถเติบโตได้ สำหรับเมืองไทย เราคงต้องมารอดูกันต่อไปว่าเหตุการณ์ดอทคอมฟูเฟื่องในต่างๆประเทศคราวนี้ จะสร้างกระแสให้กับดอทคอมเมืองไทยได้หรือไม่ เรามารอดูกันครับ

Pawoot Pongvitayapanu
9/12/03

บทความนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ หากต้องการนำไปใช้ที่อื่นๆ แจ้งนิดนึงนะครับที่ pawoot@tarad.com

]]>