<![CDATA[
ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ได้กลายเป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ที่เจ้าของผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่างๆ เริ่มสนใจและนำมาใช้ในการทำการตลาดมากขึ้น แต่หากมองย้อนดูการตลาดออนไลน์ในอดีต การทำการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่ เป็นเพียงแค่การทำโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยรูปแบบและวิธีง่าย ๆ เช่น การทำป้ายโฆษณา (แบนเนอร์) ในเว็บไซต์ต่างๆ, การส่งอีเมล์ไปยังกลุ่มลูกค้า เป็นต้น ซึ่งเป็นลักษณะการโฆษณาลงไปที่กลุ่มเป้าหมายกว้างๆ ไม่ได้ระบุชี้ชัดลงไปยังแต่ละบุคคล
แต่ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีด้านต่างๆ เข้ามาผสมผสานทำให้รูปแบบของ ทำการตลาดออนไลน์มีความหลากหลาย, มีประสิทธิภาพและ สามารถเข้าถึงใจลูกค้าได้มากขึ้น โดยรูปแบบการตลาดลักษณะนี้สามารถ เก็บข้อมูลและเรียนรู้ รวมถึงการสร้างรูปแบบการตอบสนองลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ ผมขอเรียกการตลาดออนไลน์ลักษณะนี้ว่า "การตลาดแบบพลวัตร (Dynamic Marketing)" โดยการตลาดลักษณะนี้ อาศัยเทคโนโลยีของอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ ซึ่งรูปแบบของ การตลาดไดนามิก มีหลายรูปแบบ ได้แก่
การตลาดจากพฤติกรรม (Behavioral Marketing)
วันนี้คุณสามารถ ทำให้การตลาดและการเข้าถึงลูกค้าของคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ให้ตรงกับรูปแบบพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลได้ทันที เมื่อเค้าเหล่านั้นเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ โดยคุณสามารถนำเสนอ สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่คุณมีอยู่มากมาย ให้ตรงใจกับลูกค้าหรือผู้ใช้ได้อย่างเหมาะสมโดยอาศัยการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ ว่ามีลักษณะและชื่นชอบอะไร ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในเว็บไซต์ เช่นการเก็บข้อมูลจากการสมัครสมาชิก, การเก็บข้อมูลจากการเข้าไปหน้าเว็บไซต์ต่างๆ, การใช้คุกกี้ (Cookie) เก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้ เป็นต้น โดยรูปแบบการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้ จะทำให้เราสามารถเข้าใจลูกค้าคนๆนั้นได้อย่างดี เช่น ผมเป็นผู้ชาย ชอบกล้องถ่ายรูป และชอบท่องเที่ยว เมื่อผมเข้ามาที่เว็บไซต์ แห่งหนึ่ง เว็บไซต์นี้สามารถรู้ได้ทันทีว่าผมว่ามีพฤติกรรมอย่างไรจากข้อมูลต่างๆ ที่เว็บไซต์ได้เก็บเอาไว้ และสามารถนำ สินค้ากล้องดิจิตอลตัวใหม่ล่าสุด และแพ็กเกจทัวร์เที่ยว สุดคุ้ม มานำเสนอให้กับผมได้ทันที ที่ผมเข้ามาที่หน้าแรกของเว็บไซต์ โดยที่ไม่ต้องรอให้ผมเข้าไปเลือกซื้อสินค้านั้นๆ นี้คือตัวอย่างของการศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้ และนำเสนอสินค้าหรือบริการๆต่างที่ตรงใจกับเค้าเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าภายในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมาก
(อ่านบทความ เรื่องการตลาดแบบหนึ่งต่อหนึ่งเพิ่มที่ http://www.pawoot.com/content/display/detail_preview.asp?CONT_ID=47)
การตลาดแบบกิ้งก่า (Contextual Marketing)
กิ้งก่าเป็นสัตว์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสีของตัวเองเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ หากสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคล้ายกับ คอนเท็กซ์ชัวร์ มาร์เก็ตติ้ง ที่เป็นรูปแบบการตลาดที่สามารถปรับเปลี่ยนและสร้างความสัมพันธ์ ให้ตัวเองมีความกลมกลืนกับรูปแบบของสิ่งแวดล้อม (Context) และเนื้อหาในบริเวณนั้นๆ ได้อย่างลงตัวและแนบเนียบ ซึ่งจะทำให้รูปแบ
ของการสื่อสารของข้อมูลการตลาดสามารถ เข้าถึงกลุ่มผู้รับข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบางครั้งยังสร้างมูลค่าเพิ่ม(Value Added) ให้กับเนื้อหาหรือสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นให้กับผู้รับได้อย่างดีอีกด้วย
เช่น บริการโฆษณาของ Google’s Adsense (www.google.com/adsense) ซึ่งเป็นรูปแบบการโฆษณาออนไลน์ที่คุณสามารถไปลงกับทาง Google ได้ด้วยตัวเอง โดยทาง Google จะนำโฆษณาของคุณไปลงตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกโดยที่คุณสามารถระบุประเทศ, ภาษา ของเว็บไซต์ที่คุณต้องให้โฆษณาของคุณไปแสดงได้ และยังสามารถเลือกให้แสดงกับหน้าเว็บไซต์ที่ความเกี่ยวข้องกับโฆษณาสินค้าหรือบริการของคุณได้อีกด้วย โดยรูปแบบการนำโฆษณาแต่ละรายการไปแสดงในแต่ละเว็บไซต์ ทาง Google จะทำการศึกษาเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ที่จะไปโฆษณาก่อนว่า หน้านั้นๆ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง แล้วจะทำการเลือกโฆษณาที่มีเนื้อหาหรือจุดประสงค์ เกี่ยวข้องหรือตรงกับเว็บไซต์นั้นๆ มาแสดงในหน้านั้นๆ เพื่อทำให้โฆษณาที่แสดงนั้นสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่เข้ามาหน้านั้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงกับความต้องการของผู้เข้ามาที่หน้าเว็บนั้นๆ เช่น มีหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพร เมื่อมีคนเข้ามาหน้านี้ ทาง Google Adsense จะทำการเลือกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรออกมาแสดงทำให้ผู้ชมสามารถที่กำลังสนใจข้อมูล สมุนไพร กดยังโฆษณาเหล่านี้ได้ทันที เพราะเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์และโฆษณามีความเกี่ยวข้องกัน และนอกจากนี้ทาง Google ได้นำมาใช้การตลาดรูปแบบนี้มาใช้กับบริการฟรีอีเมล์อย่าง Gmail.com ที่จะคอยตรวจสอบเนื้อหาของอีเมล์แต่ละฉบับที่เข้ามา และทำการส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับ อีเมล์ฉบับนั้นๆ มาแสดงอยู่หน้านั้นอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการตลาดแบบไดนามิกจะมีความสามารถในการเรียนรู้และเข้าใจข้อมูลต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติ ก่อนจะทำการสื่อสารออกไปถึงลูกค้า ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้าและสร้างความเข้าใจในตัวลูกค้าแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้ง
ึ่งจะนำความซึ่งความประทับใจของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างมาก โดยวิธีทางการปฏิบัติในการทำการตลาดลักษณะนี้ผ่านทางออนไลน์อาจจะต้องพึ่งพาการออกแบบระบบที่สามารถเก็บข้อมูลที่ดี ที่สามารถคำนวนและคิดสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวระบบเอง รวมถึงการเตรียมวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะมีการสื่อสารข้อมูลต่างๆ ออกไป ซึ่งตอนนี้ในเมืองไทย ผมเองยังไม่ค่อยเจอเว็บไซต์ที่มีการนำรูปแบบลักษณะนี้มาใช้เท่าไร แต่คิดว่านักการตลาดหรือเอเยนซี่หลายๆ คงอยากได้วิธีนี้มาใช้ในการทำงานการตลาดในเมืองไทยอยู่เป็นแน่ ถ้าทำจริงๆ ไม่ยากหรอกครับ ขึ้นอยู่กับคุณว่ารู้รึเปล่าว่ามันทำได้ แล้วคุณอยากจะใช้มันไหม? ผมให้เวลาคุณคิด 1 นาทีว่าคุณจะเอาวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับเว็บไซต์คุณอย่างไร……. คิดออกแล้วทำเลยครับ.!
]]>