อยู่วันนี้มีคนถามผมมาว่า "เปิดเว็บขาย CD DVD หนัง เพลง จะต้องขอใบอนุญาติไหม?" เอาละสิ เจอคำถามแบบนี้ ผมก็ต้องค้นหาคำตอบกันหน่อยละครับ เพราะการค้าสินค้าประเภทนี้ เท่าที่ผมรู้มา เค้าก็ขายกันเต็มไปหมดในเว็บไซต์ ยังไม่เคยเจอใคร พูดถึงใบอนุญาติ ประเภทนี้เลย ก็ลองค้นๆ ดูพบว่ามันมี พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 ที่เกี่ยวกับ เรื่องสื่อภาพยนต์ และเพลง ซึ่งมันรวมถึงการค้าขายและเผยแพร์ด้วยครับ ลองมาดูกันว่า มันจะเกี่ยวข้องกับการค้าสินค้าประเภทนี้ออนไลน์หรือไม่ครับ
ลองดูที่คนอื่นๆ คุยกันเกี่ยวกับ กฏหมายนี้
******************************* ข้อมูลจากเว็บอื่นๆ********************************
ส่วนปัญหาที่ทางบ้านผมเจออยู่ขณะนี้ก็มีเช่นกันเป็นเรื่องกับซีดีเนี่ยหละ แต่เป็นเรื่อง ใบอนุญาติขาย/เช่าสื่อวีดีทัศน์
ขอเล่าเรื่องเลยนะครับ
เนื่องจากอาชีพทางบ้านประกอบอาชีพขายซีดีเพลง ซีดีคาราโอเกะ ซีดีหนังของค่ายต่างๆ ๆ ซึ่งซีดีเหล่านี้มีลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำเลที่ตั้งร้านจะไม่มีหน้าร้านที่มั่นคง คือจะขายตามตลาดนัด ที่จัดเป็นวันต่อวัน จะขายหลายแห่งมาก ในหนึ่งอาทิย์ก็จะมีแหล่งที่ขายอยู่ประมาณ 7 ที่ต่างจังหวัด ต่างอำเภอกัน วันดีคืนดีก็มีตำรวจเข้ามาทวงถามเรื่อง ใบอนุญาติขาย/เช่าสื่อวีดีทัศน์ ถ้าไม่มีตำรวจก็จะจับเข้าคุกในข้อหา ใบไม่ใบอนุญาติขาย/เช่าสื่อวีดีทัศน์ ต้องขึ้นศาล ต้องประกันตัวสู้คดีและเสียค่าปรับ(จากคำตัดสิน)เป็นเงินร่วมหมื่นบาท ซึ่งโดยหลักแล้วใบอนุญาติผมก็ขอได้นะ(ค่าขอใบละ1000บาท/ปี/1ทำเลที่ ตั้ง) แต่ แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ผมไม่สามารถทำตามกติกาได้ทั้งหมด
1.การขอเอกสารนั้นยุ่งยากเกินไปและเอกสารใบอนุญาติได้ช้ามาก(ต้องใช้ ข้าราชการรับรอง ระดับซี3ขึ้นไป +แจ้งของที่+เจ้าของกิจการผู้ขอใบอนุญาติ ขอที่กระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดนั้นๆ ใช้เวลาหลายเดือนมากกว่าจะได้ กว่าจะได้มาก็ต้องโดนจับซัก1-2 รอบก่อนถึงใบอนุญาติจะมา)
2.ใบอนุญาติ1ใบ ต่อ 1 ร้าน(ทำเลที่ตั้ง)(ใช้เวลาในการขอมาก ผมขายตลาดนัดบางที่ก็ขายไม่ดี ก็ต้องเปลี่ยนที่ขายใหม่ ตลอด 1ปี ผมเปลี่ยนที่ขายอยู่เรื่อย ในหนึ่งปีก็จะมีแหล่งขายอยู่ประมาณ 24 แห่ง ลองคิดดูต้องใช้เงินเท่าไหร่ และยุ่งยากแค่ไหน นานแค่ไหนกว่าจะได้ใบอนุญาติมา และจะต้องโดนจับอีกกี่ครั้ง)
ข้อมุลจากเว็บ โทรโข่ง
*********************************************************************
เท่าที่ผมดูแล้วจากเคสนี้ เหมือนกับ ผู้ใดก็ตามที่ทำการค้า เผยแพร์ ภาพยนต์ หรือวีดีทัศน์ (ภาพหรือเสียง) จะถูกเข้าขายนี้ครับ ดังนั้นหากผมสรุปเองง่ายๆ จากข้อมูลตอนนี้ คือ ผู้ใดที่ขาย VCD DVD หนังภาพยนต์ หรือ เพลงอะไรก็ตามในเมืองไทย ต้องเข้าข่าย พ.ร.บ. นี้ครับ แต่เท่าที่ดูตอนนี้ (19/7/09) ยังไม่มีการเอาจริง เอาจังเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางการค้าทางออนไลน์เท่าไรครับ ดังนั้นหลายๆ เว็บไซต์อาจะยังไม่มีการ ไปดำเนินการจดทะเบียนตาม พ.ร.บ. นี้มากเท่าไรครับ แต่ถ้าไปจดเอาไว้ ผมว่ามันก็ดีนะครับ
ขอบคุณ คุณ @eakarin ที่ช่วยแนะนำ เคสนี้ด้วยนะครับ
พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551http://static.slidesharecdn.com/swf/ssplayerd.swf?doc=thailand-vdo-law51-090719082338-phpapp01&stripped_title=2551-1739853