ตอนนี้ธุรกิจ e-Payment หรือระบบรับชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์  ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยได้มีการแบ่งประเภทผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ทั้งหมด 8 ประเภท โดยมีจำนวน ผู้ให้บริการที่เข้าข่ายตามพระราชกฤษฎีกาฯ ดังนี้

  1. การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) มีจำนวน 25-30 ราย อาทิ ไทยสมาร์ทการ์ด ทรูมันนี่
  2. บริการเครือข่ายบัตรเครดิต ไม่มีผู้ให้บริการที่เข้าข่ายเนื่องจากมิได้จดทะเบียนในประเทศไทย
  3. บริการเครือข่ายอีดีซี ปัจจุบันยังไม่มีการให้บริการ แต่คาดว่าในอนาคตจะมีการให้บริการในรูปแบบนี้
  4. บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงิน มีจำนวน 3 ราย อาทิ ITMX ศูนย์ประมวลผล PCC
  5. บริการหักบัญชี มีจำนวน 4 ราย อาทิ TSD ศูนย์ประมวลผล PCC
  6. บริการชำระดุล มีจำนวน 3 ราย อาทิ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย
  7. การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือ ข่าย มีจำนวน 52 ราย อาทิ ธนาคารพาณิชย์ของไทย สาขาธนาคารพาณิชย์จากต่างประเทศ ผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันการเงิน และ
  8. บริการรับชำระเงินแทน มีจำนวน 8 ราย อาทิ บจ.ไปรษณีย์ไทย AIS Pay station, Jaymart Pay point

          นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้มีการจัดทำบัญชีท้ายพระราช กฤษฎีกาฯ โดยพิจารณาจากความเหมาะสมในการป้องกันความเสียหายตามระดับความรุนแรงของผล กระทบที่อาจเกิดจากการประกอบธุรกิจเอาไว้ 3 บัญชี เพื่อให้ผู้ให้บริการได้ทราบว่าธุรกิจของตนจะต้องดำเนินการในลักษณะใด

โดยบัญชี ก เป็นธุรกิจที่ต้องแจ้งให้ทราบ ซึ่งได้แก่ การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ยกเว้นการให้บริการที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยมิได้แสวงหาผล กำไร เช่น บัตรแลกซื้ออาหารในศูนย์อาหาร เป็นต้น

ส่วนบัญชี ข เป็นธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียน ซึ่งได้แก่ บริการเครือข่ายบัตรเครดิต บริการเครือข่ายอีดีซี บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินระบบใดระบบหนึ่ง และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการ หลายราย ณ สถานที่ที่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการรายเดียวกัน เช่น บัตรเติมน้ำมันของบริษัทน้ำมัน

และบัญชี ค เป็นบัญชีที่ต้องขอรับใบอนุญาต ซึ่งได้แก่ บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินหลายระบบ บริการหักบัญชีบริการชำระดุล บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือ ข่าย บริการรับชำระเงินแทน และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการ หลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียว กัน เช่น บัตรเงินสดของเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นต้น
 

    คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงไอซีที และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังได้มีการร่างประกาศที่ออกตามความในพระราชกฤษฎีกาฯ อีก 4 ฉบับ เพื่อรองรับกับการประกาศและบังคับใช้พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนใช้ควบคุมดูแลธุรกิจบริการ e-Payment คือ ร่างประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่างประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามบัญชี ก ที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนให้บริการ ร่างประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และร่างประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง นโยบายและมาตรการการรักษาความปลอดภัยทางระบบสารสนเทศในการประกอบธุรกิจของ ผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

          สำหรับร่างประกาศทั้ง 4 ฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบในหลักการจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลธุรกิจบริการ เกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว รวมทั้งผ่านการจัดประชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและ ประชาชนทั่วไป ตลอดจนการพิจารณารูปแบบและถ้อยคำจากฝ่ายกฎหมายและคดีของธนาคารแห่งประเทศไทย และได้เสนอให้คณะอนุกรรมการโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายเพื่อพิจารณา จากนั้นนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพิจารณาให้ ความเห็นชอบ และรับทราบ ก่อนจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาและบังคับใช้ต่อไป

  อ่านมาถึงตรงนี้ แอบสงสัยอยู่ว่าหากเป็นผู้ให้บริการชำระเงินจากต่างประเทศ อย่างเช่น paypal หรือ 2Checkout ก็สามารถให้บริการผ่าน internet เข้ามาให้บริการกับคนไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปจดหรือขึ้นทะเบียน พ.ร.ก. e-payment อะไรเลย รวมถึงไม่ต้องมี process และขั้นตอนต่างๆ รายงานกลับไปยัง แบงค์ชาติอีกด้วย แหมดูท่าทางพวกต่างชาติเหล่านี้จะได้เปรียบกว่าผู้ให้บริการในไทยเสียจริงๆ เฮ้ออ คิดแล้วก็เศร้าเน้อ….

Pawoot P.

ดู พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 ได้ที่ด้านล่างครับ