ศึกมาร์เก็ตเพลสในบ้านเราตอนนี้ค่อย ๆ ทวีความดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ ศึกการช่วงชิงตำแหน่งเบอร์หนึ่งและสอง (ส่วนเบอร์อื่น ๆ คุณไม่มีสิทธิ์ไปต่อครับ) เพราะอย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าสำหรับมาร์เก็ตเพลสนั้นมีได้แค่เบอร์หนึ่งกับสองเท่านั้น ไม่มีพื้นที่เหลือไว้ให้กับเบอร์สาม ดังนั้น เวทีนี้คงต้องจับตาดูให้ดี ๆ ว่าใครจะชนะในที่สุดหรือใครจะโบกมือลาไปก่อน แต่ที่แน่ ๆ ช่วงนี้ผู้บริโภคครับที่เป็นผู้ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าตอนนี้ 11street ที่มีบริษัทแม่อยู่ที่เกาหลีได้ถูกซื้อไปแล้วโดยคุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ และแว่วว่าคงไม่ได้คิดจะมามาสู้ต่อในสนามนี้อีกต่อไป น่าจะเป็นการทำให้เป็นตลาดเฉพาะมากกว่า คงไม่ต้องการที่จะทิ้งเงินเป็นหมื่น ๆ ล้านเพื่อมาสู้ศึกต่อ คงเหลือแต่เจ้าใหญ่เงินเยอะอย่าง Lazada, Shopee และที่เพิ่งเข้ามาอย่าง JD.com รวมไปถึงที่ยังซุ่ม ๆ ดูช่องทางอยู่อย่าง Amazon อีกเจ้า
อาจจะเรียกได้ว่าเส้นทางการเข้ามาของ 11street ที่ผ่านมาจังหวะไม่ค่อยดี เพราะเมื่อวันที่บุกเข้ามาในบ้านเราทั้งที่มีการเตรียมพร้อมจะเปิดตัวอยู่แล้ว เริ่มต้นก็ค่อนข้างโหมกระหน่ำบุกเข้ามาพอสมควรแต่ต้องชะลอการบุกลงในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะมีการห้ามมิให้มีการโปรโมตหรือทำการรื่นเริงหรือเอิกเกริกใด ๆ ดังนั้นจึงทำให้แผนการทำการตลาดต้องหยุดลง จึงไม่ค่อยได้เห็นปรากฏในสื่อมากเท่าที่ควร นับว่าเสียจังหวะไม่น้อยทีเดียว
จนเมื่อปลายปีที่แล้วที่ได้มีการโหมกระหน่ำอัดการโปรโมต ทุ่มลงโฆษณามหาศาล เรียกว่ายึดรถไฟฟ้า เราจะเห็นโฆษณาของ 11street หุ้มห่อรถไฟฟ้าจำนวนมาก ทั้งป้ายบนสถานีรถไฟฟ้า ทั้งใช้ดาราเบอร์ต้น ๆ ทั้งของไทยและเกาหลีมาเป็นพรีเซนเตอร์ หวังให้เป็นแม่เหล็กดึงความสนใจจากผู้บริโภคให้ได้ ซึ่งใช้เงินในการทุ่มโปรโมตไปมหาศาลมาก จน 11street ถูกคาดหมายว่ามาแน่ ๆ อย่างน้อยน่าเป็นรองก็แค่ Lazada แต่คดีพลิกครับปรากฏว่าดันเป็นช่วงเดียวกับที่ Shopee กระโจนเข้ามาคลุกวงในบนเวทีนี้เช่นกัน
เหมือน Shopee เข้ามาเพื่อฆ่าเธอ (หลายๆ คน) เพราะ Shopee เข้ามาแบบแรงมากตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เข้ามาแบบสั่นคลอดวงการไปทั้งหมดด้วยกลยุทธ์ฟรีหมดทุกอย่าง ตั้งแต่ค่า fee ค่าคอมมิชชั่น ค่าเพย์เมนท์ รวมไปถึงค่าขนส่งสินค้า กลยุทธ์นี้เองประสบความสำเร็จอย่างมากที่ไต้หวันและยังถูกนำมาใช้เกือบทั้งอาเซียน ทำให้ Shopee เติบโตอย่างรวดเร็วมาก ตอนนี้เองก็ดึงร้านค้าต่าง ๆ จาก Lazada ไปจำนวนมากด้วยแรงดึงดูดในเรื่องของการ subsidy ทุกอย่างนี่แหละ จนทำให้ตอนนี้ Lazada เองก็ประกาศที่จะไม่เก็บค่าคอมมิชชั่นเช่นกัน นี่คือการประกาศพร้อมรบสู้เต็มอัตราศึกแล้วครับ คงต้องดูกันต่อไปว่า Lazada จะมีการรับมือหรือแย่งชิงลูกค้ากันอย่างไรต่อไป รับรองว่าเป็นศึกที่ดุเดือดแน่นอน
สมรภูมิในครั้งนี้ไม่ได้กระทบเพียงแค่เจ้าที่เข้ามาก่อนแล้วอย่าง Lazada หรือ 11street ครับ เจ้าที่เพิ่งเข้ามาอย่าง JD.com ที่จับมือกับเครือเซ็นทรัลก็น่าจะหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันเพราะก็เป็นโมเดลที่มีรายได้จากการเก็บค่าคอมมิชชันและค่าอื่น ๆ แต่ตอนนี้คู่แข่งเขาประกาศทุบหม้อข้าวไม่เก็บตัวเองจะยังเก็บอยู่หรือไม่ต้องดูกันต่อไปครับ แต่ว่า JD.com เองก็วางตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่นตรงที่ตัวเองนั้นจะเน้นไปที่การขายสินค้าที่มีแบรนด์เป็นหลัก จับกลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างชัดลงไป แต่ก็ยังเรียกได้ว่าก็ยังเลี่ยงศึกนี้ไม่พ้นอยู่ดี
ยังไม่หมดครับ อย่างที่บอกแล้วว่าสมรภูมิอีคอมเมิร์ซครั้งนี้ดุเดือดจริงๆ ยังมีอีกรายที่ยังมองหาจังหวะที่เหมาะอยู่ หลังจากที่ซุ่ม ๆ มอง ๆ อยู่นานแล้วนั่นคือ Amazon ครับ มาแน่ ๆ แต่จะเข้ามาแบบไหน ผมว่าถ้าเข้ามาตอนนี้ก็เกือบสายไปสักหน่อยนะครับ แต่อาจใช้วิธีซื้อกิจการคนอื่นเลยก็ได้คือเข้ามาแบบพร้อมสู้ได้เลย หรือวิธีไหนสักอย่าง คงต้องรอดู
นี่คือเกมการต่อสู้ที่จะเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว แต่ผู้ชนะเองก็ไม่ได้รอดปลอดภัยโดยสวัสดิภาพนะครับ ก็คงเลือดออกเช่นเดียวกัน เพียงแต่แค่ยังสามารถยืนอยู่ได้ เมื่อเหลือผู้ชนะที่คุมตลาดได้ทั้งหมดแล้ว ศึกต่อไปคือลูกค้าครับ เขาปล่อยให้เราเพลิดเพลินและคุ้นเคยกับการซื้อสินค้าผ่านเว็บของเขาเป็นประจำแล้วก็คงจะมีการกลับมาเก็บคอมมิชชันหรือสร้างรายได้จากรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป แต่อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้นว่าตอนนี้คนที่ได้เปรียบที่สุดคือผู้บริโภคครับเพราะทุกเจ้าแข่งกันให้ฟรี ทุกอย่างฟรีหมด คนขายก็ชอบใจที่จะไม่โดนชาร์จค่าต่าง ๆ ลดต้นทุนลงไปอีก
บอกได้เลยว่าศึกอีคอมเมิร์ซหรือมาร์เก็ตเพลสในประเทศไทยจะเริ่มหนักขึ้นและดุเดือดเลือดพล่านเรื่อย ๆ และจะเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว แล้วคุณคิดว่าน่าจะเป็นใคร?