ผมมีโอกาสได้ไปเข้ากลุ่มเมนทอร์หรือไปเป็นกลุ่มที่เป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจ การรวมตัวครั้งนี้เราให้คำปรึกษากับสตาร์ทอัพที่สนใจจะขอคำแนะนำ แต่การให้คำปรึกษาครั้งนี้ไม่ฟรี เป็นการเอาเงินที่ได้ไปบริจาคให้กับองค์กรที่ต่อสู้กับโควิดและโครงการเพิ่งจบไป
ในกลุ่มจะมีเพื่อน ๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยีสารสนเทศมาให้คำปรึกษา โครงการนี้มีชื่อว่า “เมนทอร์เพื่อเธอนะจ๊ะ”
มีทั้งหมดประมาณ 7 บริษัทที่อยากให้ผมให้คำปรึกษาธุรกิจ ผมเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับท่านผู้อ่าน ครั้งนี้มีบริษัทรูปแบบต่าง ๆ ที่มีการปรับตัว และผมเองก็ได้เรียนรู้ได้คุยกับพวกเขา มีความหลากหลายมาก นอกจากนี้ที่ทุกคนอยากมาช่วยก็เพราะว่าเงินที่จ่ายมายังก็ได้เอามาช่วยเหลือด้วย
มีบริษัทที่ผมชอบมากบริษัทหนึ่งคือเป็นน้องคนหนึ่งที่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ธุรกิจครอบครัวของเขาทำปฏิทินจีนที่เรียกว่าน่ำเอี๊ยง ถ้าคุณโตมากับครอบครัวจีนจะคุ้นกับคู่มือเล่มหนึ่งที่เป็นแบบปฏิทินจีน มีตัวเลขใหญ่ ๆ มีการบอกวันธงชัย ราศีชง ฯลฯ ในนั้นจะมีการดูดวง การทำนายดวงชะตาในแต่ละวัน มีดวงจีนสอดแทรกอยู่ในนั้นด้วย นี่แหละครับที่เรียกว่าปฏิทินน่ำเอี๊ยง และธุรกิจที่บ้านของน้องคนนี้ทำเกี่ยวกับการพิมพ์ การดูฤกษ์ต่าง ๆ และทำปฏิทินจีน
สิ่งที่น่าสนใจของน้องคนนี้คือเขาบอกว่าตอนนี้คนใช้ปฏิทินน้อยลงจึงคิดทำเป็นแอปพลิเคชันชื่อ “น่ำเอี๊ยง” เป็นปฏิทินไทย-จีน สามารถดูวันธงชัย ดูวันดี ฤกษ์วันแต่งงาน วันเกิด ดูได้ทั้งหมดผ่านแอปตัวนี้
เมื่อเจเนอเรชั่นที่ 3 ต้องมาดูแลธุรกิจสิ่งพิมพ์นี้โดยเอาเข้าสู่ดิจิทัล เขาเองมีบิสเนสโมเดลหรือแผนธุรกิจที่น่าสนใจมาก ๆ กับการที่จะปรับธุรกิจเดิมของที่บ้านที่เป็นสิ่งพิมพ์เข้าสู่ดิจิทัลได้น่าสนใจ
เมื่อคนดาวน์โหลดแอปนี้มาจะสามารถดูดูฤกษ์ได้เหมือนในปฏิทิน และมีบริการต่าง ๆ ที่สามารถสร้างรายได้นอกเหนือจากที่เคยทำในเมื่อก่อนที่ขายปฏิทิน จะมีการสมัครสมาชิก ทำโฆษณา มีการทำ Wedding planner ผมชอบแนวคิดเด็กรุ่นใหม่ที่สามารถสานต่อธุรกิจจากรุ่นพ่อรุ่นอากงมาได้อย่างน่าสนใจ
เท่าที่ผมพูดคุยกับน้องคนนี้เราคุยกันด้วยแนวคิดแบบใหม่ เป็นปฏิทินจีนแบบใหม่มาก นี่คือการเอาคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดสมัยใหม่มาต่อยอดกับธุรกิจเดิม
ที่น่าตื่นเต้นก็เพราะว่ากลุ่มเจเนอเรชั่นปัจจุบันอย่างเบบี้บูมเมอร์กำลังเจอปัญหาคือไม่มีรุ่นลูกหลานที่จะสืบทอดกิจการต่อ เด็กรุ่นใหม่มีแนวคิดที่อยากจะทำธุรกิจของตัวเองมากกว่า
แต่น้องคนที่เข้ามาปรึกษานี้เขามองธุรกิจที่บ้านในมุมของธุรกิจที่มีดิจิทัลเข้าไปเสริม และเริ่มมองว่าจะสามารถสร้างรายได้ได้อย่างไรจาก asset หรือสินทรัพย์มีอยู่เดิมแล้วเกิดรายได้ใหม่ ๆ
ผมว่าตอนนี้หลายท่านน่าจะเจอปัญหาคือที่บ้านมีธุรกิจและอยากให้ลูกกลับมาสืบต่อกิจการต่อ สิ่งหนึ่งที่ผมเคยแนะนำคือเมื่อลูกเรียนจบแล้ว ผมไม่แนะนำให้เขากลับมาทำงานที่บ้านทันที เพราะเด็กเหล่านั้นจะไม่มีประสบการณ์ของการเป็นลูกจ้างมาก่อน และไม่เคยอยู่ในองค์กรใหญ่มาก่อนทำให้ไม่รู้จักระบบ ไม่มีโอกาสสะสมองค์ความรู้ใหม่ ๆ
อีกธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจคือเรียลเอสเตท เจ้าของยังหนุ่มอยู่แต่สร้างรายได้หลายร้อยล้าน ธุรกิจนี้เป็นการซื้อบ้านมือสอง บ้านเก่า คอนโดเก่าที่อยู่ในโลเคชั่นดี ๆ ซื้อมาทำใหม่ให้สวย และสามารถขายได้ บางโครงการสามารถขายได้ในราคาสูง กำไรเกือบ 100%
สิ่งที่น่าสนใจคือเขาต้องการนำเทคโนโลยีเข้ามาในธุรกิจ เรามีการคุยกันในเรื่องที่จะเอาดาต้า ข้อมูลต่าง ๆ นำการวิเคราะห์ Analytics ต่าง ๆ มาผสมผสานกับธุรกิจเรียลเอสเตทซึ่งน่าสนใจมาก ถ้าเรายังอยู่ในธุรกิจแบบเดิม ๆ มาตลอดก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่หากเอาเทคโนโลยีเข้าไปใช้แล้ว หนึ่ง คุณจะเกิดมุมมองในการทำธุรกิจแบบใหม่ ๆ สอง เกิดบิสเนสโมเดล วิธีการหารายได้ใหม่ ๆ สาม สามารถจับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้เลย
ฉะนั้น ใครที่ยังติดอยู่กับกับดักอยู่ในรูปแบบธุรกิจแบบเดิม ๆ ยังปรับตัวเองไม่ได้ และไม่รู้จะไปทางไหน ผมว่าการที่หาผู้ช่วย คนที่มีความเชี่ยวชาญมาเสริม มาปรับโมเดล ทำธุรกิจใหม่ ๆ ให้มันสอดคล้องกับพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไปในยุคนี้ ธุรกิจของคุณจะทันสมัยมากขึ้น วิธีการเก็บเงิน วิธีการหารายได้ของคุณจะมีความแปลกใหม่มากขึ้น การรีเฟรชธุรกิจอาจเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องทำ
อีกธุรกิจที่น่าสนใจมากครับ เป็นผู้ประกอบการจากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าท้องถิ่น ผมสนใจและชอบวิธีคิดมากเลยคือเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่เอาออนไลน์เข้ามาช่วย มี Facebook มี LINE OA ใช้เครื่องมือ มีพนักงานไปไลฟ์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ปรากฏว่ายอดขายดีมาก
ใช้ธุรกิจออนไลน์ในการสร้างลูกค้าดึงลูกค้าเข้ามา ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดมีการเก็บมีการใช้ CRM มีการวัดผล เก็บข้อมูลลูกค้าว่าแต่ละคนที่มาซื้อขายเป็นอย่างไรบ้าง มีการส่งถึงบ้าน ฯลฯ คือดูแล้วไม่ธรรมดา มีการใช้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ในการวิเคราะห์คู่แข่งคู่ค้าต่าง ๆ มีการขายส่งบ้าง มีการทำระบบผ่อนออนไลน์
และที่น่าสนใจเขาบอกว่ายอดขายที่มาจากออนไลน์เฉพาะแชทคอมเมิร์ซประมาณประมาณสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ มีการขายผ่านมาร์เก็ตเพลสพวกลาซาด้า ชอปปี้ เขาบอกว่าการไปเปิดขายผ่านมาร์เก็ตเพลสนี้ไม่ค่อยมีกำไรแต่ต้องมีไว้ เพราะเป็นช่องทางในการปล่อยของออกให้หมดสต็อกเร็ว ๆ
จุดที่น่าสนใจเขาบอกว่าตอนนี้เจอภัยคุกคาม
1) มาร์เก็ตเพลสเป็นภัยคุกคามของเขา
2) D2C (direct to consumer) หรือแบรนด์หรือโรงงานต่าง ๆ เริ่มขายตรงกับผู้บริโภค
3) โมเดิร์นเทรดต่าง ๆ พวกร้านดัง ๆ ห้าง ๆ เริ่มขยายตัวเองมา และเริ่มกระโดดเข้ามาในออนไลน์ด้วยเหมือนกัน
เขาปรับตัวโดยใช้ Online Marketing สร้าง awareness ต้องเปลี่ยนลูกค้าให้เกิดการรับรู้ เกิดการซื้อ จนถึงการกลายเป็นสาวกของร้าน ฯลฯ ถือว่าเป็นร้านที่สมัยใหม่มาก แนวคิดค่อนข้างจะไม่เหมือน sme ทั่วไป บอกได้เลยว่าเขาได้ทรานส์ฟอร์มตัวเองเรียบร้อยแล้ว
นี่ทำให้เห็นว่า ถึงแม้จะเป็น sme ถึงแม้จะอยู่ต่างจังหวัด หากคุณมีธุรกิจที่เป็นตัวกลาง คุณเองก็ต้องปรับตัวด้วยเหมือนกัน ต้องพยายามเอาองค์ความรู้ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมให้คุณเก่งขึ้น ถ้ายังทำอยู่เหมือนเดิมบอกได้เลยว่าอันตรายมากเลยทีเดียว