เดือนตุลาคมนี้แพลตฟอร์ม Food Delivery ทั้งหลายจะใช้โครงการคนละครึ่งได้แล้ว พูดถึงเรื่องของ Food Delivery ในไทยต้องบอกว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้วในเรื่องของการสั่งอาหารในยุคโควิด มีข้อมูลชุดหนึ่งเปิดเผยโดยคุณยอด CEO ของ LINE MAN WONGNAI ในงาน DAAT DAY 2021 โดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) 

คุณยอดได้พูดถึง 5 แนวทางการปรับตัวของร้านอาหารให้อยู่รอดซึ่งเป็นข้อมูลจากช่วงครึ่งปีแรก นั่นคือ

1. ความถี่และมูลค่าในการใช้บริการร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น

ก่อนหน้าที่จะล็อคดาวน์บริการของฟู้ดดิลิเวอรี่ก็ได้รับความนิยมอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่มีการล็อคดาวน์นั้นปริมาณคนที่ใช้บริการสั่งอาหารทางออนไลน์โตขึ้น นอกจากนี้ความถี่และมูลค่าก็โตมากขึ้นด้วยเหมือนกัน เพราะคนไม่สามารถออกไปกินอาหารข้างนอกได้ทำให้ต้องมีการสั่งอาหารออนไลน์ทุกมื้อ

ประเภทของร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

อันดับ 1 คือร้านกาแฟทางออนไลน์ อันดับ 2 อาหารจานเดียว อันดับ 3 อาหารตามสั่ง อันดับ 4 ร้านก๋วยเตี๋ยว อันดับ 5 ร้านอาหารไทย อันดับ 6 ร้านอาหารอีสาน อันดับ 7 ฟาสต์ฟู้ด อันดับ 8 ชานมไข่มุก อันดับ 8 ร้านขนมหวาน และอันดับ 10 สตรีทฟู้ด 

จุดที่น่าสนใจคือ ร้านกาแฟเมื่อปีที่แล้วอยู่อันดับ 7 แต่ปีนี้ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 อย่างผมไปบางที่เมื่อถามว่ารับกาแฟไหมและะเขาจะสั่งฟู้ดดิลิเวอรี่จากร้านกาแฟมาให้เลย และตอนนี้เด็กวัยรุ่นที่ออกไปไหนไม่ได้ก็จะสั่งกาแฟมากินกัน ตรงนี้เองทำให้ประเภทอาหารนี้ไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น 

ในขณะเดียวกันร้านอาหารเเองก็เริ่มจัดโปรโมชั่นในวันพิเศษเพื่อให้ทำตัวเลขต่อรายการมากขึ้น สังเกตว่าในแอปสั่งอาหารต่าง ๆ จะเริ่มมีการซื้อเมนูนี้แถมเมนูนี้หรือลดราคา ฉะนั้น ทำให้มูลค่าต่อออเดอร์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ตรงนี้แหละครับจะเห็นว่าเทคนิคของร้านค้าหรือร้านอาหารมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน 

ตัวอย่างจากช่วงวันแม่ที่ผ่านมา ผู้บริโภคหันมาซื้อเค้กวันแม่ผ่านฟู้ดดิลิเวอรี่มากขึ้น ทำให้วันแม่กลายเป็น New High หรือตัวเลขในการใช้งานสูงสุดของบริการฟู้ดดิลิเวอรี่เลยทีเดียว 

2. พื้นที่ในการบริการของฟู้ดดิลิเวอรี่เริ่มขยายออกไปรอบนอกมากขึ้น

รอบนอกในที่นี้เราอาจจะพูดถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนนี้เริ่มไปปริมณฑลมากขึ้น รวมถึงเริ่มขยายเข้าไปในพื้นที่จังหวัดที่เป็น tier 2 อย่าง พัทยา ขอนแก่น เชียงใหม่ มากขึ้น รวมถึงจังหวัด tier 3 อย่าง พิจิตร แพร่ ลำพูน หรือกาญจนบุรีก็มีสัดส่วนการใช้งานฟู้ดดิลิเวอรี่มากขึ้น 

อนาคตของฟู้ดดิลิเวอรี่เขาฟันธงเลยว่าการให้บริการจะครอบคลุมทั่วประเทศไทยอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้มีผู้ให้บริการบางเจ้าที่มีบริการครอบคลุมทั่วไทยแล้ว แต่ในบางจังหวัดอาจอยู่แค่ในอำเภอเมือง ในอนาคตจะเริ่มขยายจากอำเภอเมืองของแต่ละจังหวัดออกไปยังอำเภอใหญ่ ๆ และเข้าสู่ตำบลต่างๆ ซึ่งจะกลายเป็นเทรนด์ และเริ่มเป็นพฤติกรรมของคนทั้งประเทศที่จะเปลี่ยนไปแล้ว 

3. คนเคยชินกับความสบาย ต่อให้ไม่มีโควิดก็ยังได้รับความนิยม

มีหลายคนกังวลว่าถ้าหมดโควิดแล้ววงการฟู้ดดิลิเวอรี่จะยังคงได้รับความนิยมหรือเปล่า คุณยอดยืนยันว่าไม่ต้องห่วง ยังไงก็ยังได้รับความนิยมเหมือนเดิม เพราะคนคุ้นชินกับความสะดวกสบายแล้ว ถึงกลับไปเป็นเหมือนเดิมคนก็ไม่อยากกลับไปแล้ว

ผมบอกได้เลยว่าหลังจากดควิด อย่างไรก็ตามร้านอาหารก็ต้องมีส่วนของฟู้ดดิลิเวอรี่อยู่ ทุกร้านต้องแบ่งสัดส่วนยอดขายจากหน้าร้านค้าแบบเดิมไปให้ในส่วนของดิลิเวอรี่มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับข้อ 4

4. ร้านอาหาร “ทุกร้าน” จะปรับตัวมาใช้ฟู้ดดิลิเวอรี่

ถึงแม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่พฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไปอยู่กับฟู้ดดิลิเวอรี่มากขึ้นจะทำให้ร้านอาหารต่าง ๆ ต้องปรับตัวเอง จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านอาหารตามสั่ง แต่ตอนนี้เองร้านอาหารประเภทสไตล์ Dining ที่มีเชฟไปทำให้กินแบบหรูหราก็เริ่มมีเมนูสำหรับดิลิเวอรี่แล้ว หรือร้านบุฟเฟต์เองก็ตามก็เริ่มมีเซ็ตพิเศษส่งถึงบ้านได้เลย

สถานการณ์แบบนี้ทำให้ทุกร้านค้ามองว่าฟู้ดดิลิเวอรี่เป็นช่องทางหลัก ไม่ใช่ช่องทางรองอีกแล้วนะครับ แต่เป็นช่องทางหลักในการขายด้วยเหมือนกัน 

และถ้าถามว่าการเริ่มต้นเปิดร้านอาหารดิลิเวอรี่ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ทางคุณยอดเองก็แนะนำ 5 ข้อที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวคือ

– ศึกษาคู่แข่งในบริเวณเดียวกันก่อน

หากเราอยากจะเปิดร้านอาหารก็ต้องดูก่อนว่าในพื้นที่ของคุณนั้นมีร้านอาหารแบบที่เราต้องการขายอยู่มากน้อยขนาดไหน เพื่อดูว่าอะไรขายดี อะไรเป็นที่นิยม อะไรที่มีความแตกต่าง เพื่อสร้างจุดแตกต่างระหว่างเรากับคู่แข่ง ข้อแรกคือการดูดีมานด์ วิธีการไม่ยากคือ เปิดทุกแอปสั่งอาหารแล้วนั่งไล่ดู ลองปักหมุดไปบนพื้นที่นี้ เก็บข้อมูลว่ามีร้านอาหารประเภทไหนบ้าง ถ้าไม่มีร้านที่เราอยากทำคือเราก็มีโอกาสแล้ว 

– ทำ Self Promotion ดึงดูดลูกค้า

โปรโมชั่นมีอยู่ 2 อย่างคือ แบบแรกเป็นโปรโมชั่นที่เราจัดร่วมกับแอปซึ่งวันนี้จะมีเป็นช่วง ๆ และ แบบที่สองคือ เราจัดโปรโมชั่นของเราเอง เมื่อเข้าไปหน้าร้านของเราในแอปจะมีโปรโมชั่น ส่วนลดต่าง ๆ เพื่อทำให้ลูกค้าซื้อและจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้น ตรงนี้ทำให้รายค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อออเดอร์ของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นด้วยเหมือนกัน 

– การลง Ads ในฟู้ดดิลิเวอรี่ทุกแอปจะมีบริการซื้อโฆษณาด้วย

ฉะนั้น การซื้อโฆษณาจะทำให้เราขยายกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นด้วยเหมือนกัน

– คงคุณภาพอาหารและรสชาติ

โปรโมชั่นช่วยดึงดูดลูกค้าได้ แต่ถ้าหากคุณภาพอาหารและรสชาติไม่ดีหรือลดคุณภาพพลง ลูกค้าจะไม่กลับมาอุดหนุนซ้ำ

– ข้อนี้สำคัญมาก ถ้าร้านไหนไม่มีรูปภาพ ลูกค้าจะให้ความสำคัญน้อยลง

คนจะชอบดูรูปภาพมากกว่า การถ่ายภาพสินค้าต้องสวยมาก สิ่งสำคัญของร้านอาหารเดลิเวอรี่คือ ภาพถ่าย ฉะนั้นต้องให้ความสำคัญ ต้องตั้งใจถ่าย ภาพต้องดี สวย น่ากิน และต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงด้วย

นี่คือ 5 ข้อใหญ่ ๆ ที่ต้องทำหากต้องการนำธุรกิจเข้าไปในสนามแข่งฟู้ดดิลิเวอรี่ตอนนี้